วันที่เอกสารถูกสร้าง: 
25/01/2008
ที่มา: 
www.siamlaw.com เขียนโดย ลีลา LAW


ตัวแทนเบี้ยว


        โดยทั่วไปแล้วการทำธุรกรรมหรือนิติกรรมสัญญาต่างๆ เจ้าของเรื่องสมควรกระทำด้วยตัวเองเพื่อป้องกันความผิดพลาด บางกรณีเจ้าของอาจมีธุระและไม่สามารถไปทำได้ กฎหมายยินยอมให้มีตัวแทน แต่ตัวการต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวแทนโดยปราศจากการโต้แย้งใดๆ ถ้าตัวแทนกระทำผิดขั้นตอน ตัวการต้องรับผลเสียหายดังกล่าวไปด้วย


        หลายท่านอาจเคยได้ยินกรณีพิพาทระหว่างตัวการกับตัวแทนซึ่งเกิดละโมบและเปลี่ยนใจอยากรับประโยชน์จากกิจกรรมที่ตนทำไว้ แทนที่ควรจะเป็นของตัวการคนเดียว เมื่อถูกทวงสิทธิ์จากตัวการจึงปฏิเสธการคืนสิทธิ์นั้น ทำให้เกิดกรณีพิพาทขึ้น โดยเฉพาะเมื่อตัวแทนมีวิชาชีพทนายความ คดีจึงมีความซับซ้อนขึ้น แต่ความยุติธรรมย่อมอยู่ข้างผู้สุจริตเสมอ ดังใน คำพิพากษาฎีกาที่ 2178/2548 เมื่อ นางพรรณ เชิดให้ นายพิมล ซึ่งเป็นทนายความไปจดทะเบียนรับจำนองที่ดินของ นายฤทธิ์ แทนโดยเธอจ่ายเงินให้แก่เจ้าของที่ดินด้วยตัวเองในวันจดทะเบียนจำนองแล้วยังเป็นผู้เก็บสัญญาจำนองไว้เอง ต่อมาเกิดความขัดแย้งกับทนายพิมล เธอจึงขอให้เขาเปลี่ยนชื่อผู้รับจำนองมาเป็นนางพรรณตามข้อเท็จจริง แต่ทนายพิมลปฏิเสธว่า รับจำนองที่ดินในฐานะส่วนตัว มิใช่ตัวแทนเชิดของนางพรรณ อีกทั้งการตั้งตัวแทนของนางพรรณมิได้ทำหลักฐานเป็นหนังสือด้วย คดีนี้ศาลพิพากษาว่า นางพรรณฟ้องเรียกทรัพย์สินจากทนายพิมลผู้เป็นตัวแทนตามประมวลแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 810 บัญญัติว่า เงินและทรัพย์สินอย่างบรรดาที่ตัวแทนได้รับไว้เกี่ยวด้วยการเป็นตัวแทน ท่านว่าตัวแทนต้องส่งให้แก่ตัวการ ส่วนเรื่องหลักฐานการตั้งตัวแทนตาม มาตรา 798 บัญญัติว่า กิจการใดท่านบังคับไว้โดยกฎหมายว่าต้องทำเป็นหนังสือ การตั้งตัวแทนเพื่อกิจอันนั้น ต้องทำเป็นหนังสือด้วย แม้การตั้งตัวแทนรับจำนอง ต้องทำเป็นหนังสือ แต่ใช้บังคับในการพิพาทกับบุคคลภายนอกเท่านั้น กอปรกับพฤติกรรมในคดีฟังได้ชัดว่า ทนายพิมลเป็นตัวแทนเชิดจริง ดังนั้น ระหว่างตัวการและตัวแทนเชิด แม้ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือแต่งตั้งตัวแทน ก็ฟ้องร้องบังคับคดีกันได้โดยไม่ขัดต่อมาตรา 798 อย่างใด ทนายพิมลจึงต้องจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อผู้รับจำนองให้นางพรรณซึ่งเป็นตัวการแท้จริง


        กรณีศึกษาข้างต้นเป็นตัวอย่างเตือนใจว่า การตั้งตัวแทนต้องมีความรอบคอบสูง หากตัวแทนมีข้อต่อสู้เพื่อชิงผลประโยชน์ย่อมสร้างความวุ่นวายและเจ็บแค้นแก่ตัวการได้ แม้การตั้งตัวแทนเชิดจะอาศัยข้อเท็จจริงพิสูจน์ความเป็นตัวแทนได้ แต่ทางที่ดีแล้วควรมีหลักฐานเป็นหนังสือระบุความเป็นตัวแทนให้ชัดเจนเพื่อป้องกันมิให้มีข้ออ้างเรื่องสถานภาพอีก โดยเฉพาะควรกำหนดขอบเขตกิจที่ตัวแทนพึงทำได้มิให้กว้างขวางเกินไป มิฉะนั้นเขาอาจใช้โอกาสนี้สร้างหนี้สินให้ท่านหรือโอนย้ายทรัพย์สินของท่านไปโดยไม่ทันรู้ตัว สำหรับคดีดังกล่าวข้างต้นนั้นชนะได้เพราะแม้มิได้แต่งตั้งตัวแทนเป็นหนังสือไปจดทะเบียนจำนองตามหลักกฎหมายตัวแทนกิจการจำนองก็ตาม แต่มันเป็นคดีฟ้องระหว่างตัวการกับตัวแทน หากเป็นการพิพาทระหว่างตัวการกับบุคคลภายนอก ผลคดีอาจเปลี่ยนแปลงได้ ทุกขั้นตอนสำคัญของการจำนองในคดีนี้ ตัวการลงมือทำเองและมีเอกสารประกอบการจ่ายเงิน อีกทั้งเก็บสัญญาจำนองไว้ด้วย


        ขณะที่ทนายความอ้างข้อกฎหมายต่อสู้เพื่อชนะคดีอย่างเดียว แต่ขาดข้อเท็จจริงซึ่งแสดงชัดถึงการจ่ายค่ารับจำนองด้วยตัวเอง อันเป็นหัวข้อสำคัญของการจำนอง ศาลพิจารณาข้อเท็จจริงประกอบข้อกฎหมายแล้ว จึงตัดสินคดีออกมาเช่นนี้ ในทางกลับกันถ้าตัวการไม่มีเอกสารการจ่ายเงินเองหรือข้อเท็จจริงแวดล้อมอื่นที่บ่งบอกชัดว่า ผู้รับจำนองตัวจริง คือ นางพรรณ ข้ออ้างทางกฎหมายของทนายอาจพลิกคดีให้เขาชนะและได้ประโยชน์ในที่ดินไปโดยไม่ต้องเสียเงินเลย ดังนั้น การตั้งตัวแทนเป็นการอำนวยความสะดวกชนิดหนึ่ง แต่อีกด้านก็ซ่อนอันตรายต่อตัวการไว้ จึงพึงใช้ความรอบคอบและดูแลการทำงานของตัวแทนอย่างใกล้ชิดเนื่องเพราะตามหลักกฎหมายนั้นทุกการกระทำของตัวแทน ตัวการต้องรับผิดชอบแม้ไม่เคยรับรู้มาก่อน จึงพึงระวังการเขียนใบมอบอำนาจหรือใบแต่งตั้งตัวแทนเป็นกรณีพิเศษเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาพิพาทกันในศาล ต้องเสียเวลา หรือสูญเสียผลประโยชน์เพียงเพราะไม่ทำตามกฎหมายอย่างครบถ้วน ท่านควรฝึกตนให้คุ้นเคยกับการอ่านข้อความในกระดาษทุกแผ่นก่อนลงลายมือชื่อ มันย่อมไม่ยุติธรรมต่อท่านที่ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่มิได้กระทำหรือรับรู้ จึงต้องมีความรอบคอบกับกระดาษทุกแผ่น


--------------------------------------------------------------------------------

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

 


www.siamlaw.com เขียนโดย ลีลา LAW
ประเภทของหน้า: บทความกฎหมาย