วัดพระธาตุหริภุญไชยวรมหาวิหาร

วันที่เอกสารถูกสร้าง: 
03/01/2008
ที่มา: 
เว็บไซต์ธรรมะไทย เว็บไซต์วัดในเชียงใหม่

วัดพระธาตุหริภุญไชยวรมหาวิหาร

        วัดพระธาตุหริภุญไชยวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลำพูน ห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ 150 เมตร มีถนนล้อมรอบสี่ด้าน คือ ถนนอัฏฐารสทางทิศเหนือ ถนนชัยมงคลทางทิศใต้ ถนนรอบเมืองทาง ทิศตะวันออก และถนนอินทยงยศทางทิศตะวันตก สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1651 ในรัชสมัยพระเจ้าอาทิตยราช ต่อมาได้รับการบูรณะต่อเติมมาเป็นลำดับ ภายในบริเวณวัดพระธาตุหริภุญไชย

[แก้ไข] ประวัติ

        เป็นวัดที่มีองค์พระบรมธาตุหริภุญชัย ที่มีอายุเกิดกว่าหนึ่งพันปี ประดิษฐานอยู่กลางวัด เป็นเจดีย์องค์เก่าแก่องค์หนึ่งในลานนาไทย ซึ่งพระเจ้าแผ่นดินในอาณาจักรล้านนาได้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.1440 นับถึงเวลาปัจจุบันก็มีอายุได้ 1108 ปี(ปัจจุบันปี พ.ศ.2548) เป็นเจดีย์องค์หนึ่งในจำนวน 8 องค์ ที่มีอายุเกิน 1,000 ปี ของประเทศไทย ชื่อของวัดพระธาตุหริภุญชัย มาจากชื่อของเมืองหริภุญชัย ตามที่ พระพุทธเจ้าได้ทรงพยากรณ์ไว้เมื่อครั้งเสด็จมาบิณฑบาตในสมัยพุทธกาลและได้แวะรับฉันลูกสมอ ที่ชาวลั๊วะนำมาถวาย โดยได้ทรงพยากรณ์ว่า สถานที่แห่งนี้จะมีผู้มาสร้างเมืองและตั้งชื่อว่า "หริภุญชัยนคร" ซึ่งหริภุญชัยแปลว่าเมืองที่พระพุทธเจ้าเคยเสวยลูกสมอ (หริแปลว่าสมอ----ภุญชัยแปลว่าเสวย----นครแปลว่าเมือง) สำหรับสิ่งก่อสร้างในบริเวณวัดก็มีดังนี้ครับ

[แก้ไข] สิ่งสําคัญภายในวัด

[แก้ไข] ซุ้มประตู

        ก่อนที่จะเข้าไปในบริเวณวัด ต้องผ่านซุ้มประตูก่ออิฐถือปูนประดับลวดลายวิจิตรพิสดาร เป็นฝีมือโบราณสมัยศรีวิชัย ประกอบด้วยซุ้มยอดเป็นชั้น ๆ เบื้องหน้าซุ้มประตูมีสิงห์ใหญ่คู่หนึ่งยืนเป็นสง่า บนแท่น สูงประมาณ 1 เมตร สิงห์คู่นี้ปั้นขึ้นใน สมัยพระเจ้าอาทิตยราช เมื่อทรงถวายวังให้เป็นสังฆาราม

[แก้ไข] วิหารหลวง

        เมื่อผ่านซุ้มประตูเข้าไปแล้วจะเห็นวิหารหลังใหญ่เรียกว่า "วิหารหลวง" เป็นวิหารหลัง ใหญ่มีพระระเบียงรอบด้าน และมีมุขออกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เป็นวิหารที่สร้างขึ้นใหม่แทนวิหารหลังเก่า ซึ่งถูกพายุพัดพังทลายไปเมื่อ พ.ศ. 2466 วิหารหลวงใช้เป็นที่บำเพ็ญกุศล และประกอบศาสนากิจทุกวันพระ ภายในวิหารประดิษฐานพระปฏิมาใหญ่ ก่ออิฐถือปูน ลงรักปิดทอง บนแท่นแก้วรวม 3 องค์ และพระพุทธ ปฏิมาหล่อโลหะขนาดกลางสมัยเชียงแสนชั้นต้น และชั้นกลางอีกหลายองค์

[แก้ไข] พระบรมธาตุหริภุญไชย

        เป็นพระเกศบรมธาตุบรรจุในโกศทองคำ ประดิษฐานในพระเจดีย์ (ตั้งอยู่ หลังวิหารหลวง) เป็นเจดีย์แบบล้านนาไทยแท้ๆ ที่ลงตัวสวยงาม ประกอบด้วยฐานปัทม์ แบบฐานบัวลูกแก้ว ย่อเก็จ ต่อจากฐานบัวลูกแก้วเป็นฐานเขียงกลมสามชั้น ตั้งรับองค์ระฆังกลม บัลลังก์ย่อเหลี่ยม เจดีย์มีลักษณะ ใกล้เคียงกับพระธาตุดอยสุเทพที่จังหวัดเชียงใหม่ สูง 25 วา 2 ศอก ฐานกว้าง 12 วา 2 ศอก 1 คืบ มีสัตติ- บัญชร (รั้วเหล็กและทองเหลือง) 2 ชั้น สำเภาทองประดิษฐานอยู่ประจำรั้วชั้นนอกทั้งทิศเหนือ และทิศใต้ มีซุ้มกุมภัณฑ์ และฉัตรประจำสี่มุม และหอคอยประจำทุกด้านรวม 4 หอ บรรจุพระพุทธรูปนั่งทุกหอ นอกจากนี้ยังมีโคมประทีป และแท่นบูชาก่อประจำไว้เพื่อเป็นที่สักการะบูชาของพุทธศาสนิกชนทั่วไป

        พระบรมธาตุนี้นับเป็นปูชนียสถานอันสำคัญยิ่งในล้านนาไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณ ในวันเพ็ญ เดือน 6 จะมีงานนมัสการ และสรงน้ำพระธาตุทุกปี ตามประวัติกล่าวเมื่อ พ. ศ. 1440 พระเจ้าอาทิตยราชกษัตริย์วงศ์รามัญผู้ครองนคร ลำพูนได้สร้างมณฑปครอบโกศทองคำบรรจุพระบรมธาตุไว้ภายในและมีการสร้างเสริมกันต่อมาอีกหลาย สมัยต่อมาในปี พ.ศ. 1986 พระเจ้าติโลกราช กษัตริย์ครองนครเชียงใหม่ได้ทรงกระทำการปฏิสังขรณ์บูรณะ เสริมองค์พระเจดีย์ขึ้นใหม่ การสร้างคราวนี้ได้สร้างโครงขึ้นใหม่เป็นรูปแบบลังกา ซึ่งปรากฏอยู่ในปัจจุบันนี้ ทั้งนี้เพราะในสมัยพระเจ้าติโลกราชได้มีความสัมพันธ์กับลังกาอยู่มาก

[แก้ไข] พระสุวรรณเจดีย์

        สร้างขึ้นในสมัยพุทธศตวรรษที่ 17 ตั้งอยู่ทางขวาของพระบรมธาตุ สร้างขึ้น โดยพระนางปทุมวดี อัครมเหสีของพระเจ้าอาทิตยราช ภายหลังเมื่อสร้างพระธาตุฯ เสร็จแล้วได้ 4 ปี พระ สุวรรณเจดีย์องค์นี้เป็นรูปแบบพระปรางค์ 4 เหลี่ยม ฝีมือช่างละโว้มีพระพุทธรูปประจำซุ้ม ฝีมือและแบบขอมหลงเหลือให้เห็นอยู่บ้าง ยอดพระเจดีย์มีทองเหลืองหุ้มอยู่ ภายใต้ฐานชั้นล่างเป็นกรุบรรจุพระเปิม ซึ่งเป็นพระเครื่องชนิดหนึ่ง

[แก้ไข] กังสดาล

        ใบใหญ่ในวัดนี้สร้างเมื่อ พ.ศ.1222 หล่อที่วัดพระสิงห์เชียงใหม่ โดยการนำของพระกัญจนมหาเถระแห่งเมืองแพร่กับเจ้าหลวงเมืองเชียงใหม่ ร่วมกันสร้างเพื่อถวายไว้เป็นสมบัติของวัดพระธาตุหริภุญชัยในสมัยพระนางจามเทวี

[แก้ไข] ระฆัง

        ใบใหญ่เจ้ากาวิโรสำสุริยวงศ์ผู้ครองนครเชียงใหม่ ทรงให้หล่อระฆังใหญ่ไว้ที่วัดพระธาตุหริภุญชัยเมื่อปี พ.ศ.2407

[แก้ไข] หอระฆัง

        เป็นสถาปัตยกรรมสมัยรัตนโกสินทร์ สร้างในสมัยเจ้าจักรคำขจรศักดิ์ ประมาณปี พ.ศ.2480 เพื่อไว้เป็นที่แขวนระฆังและกังสดาลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

[แก้ไข] หอไตร

        เป็นศิลปะขอมปนศรีวิชัย สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างในสมัยของเจ้าน้อยอินทยงยศ ประมาณปี พ.ศ.2445 หรือเมื่อประมาณ 100 ปีก่อน

[แก้ไข] หอยอ

        ประจำทิศทั้ง 4 ของพระเจดีย์ รวมทั้งฉัตรที่มุมพระเจดีย์ทั้ง 4 มุม สร้างในสมัยของพระเจ้ากาวิละในปี พ.ศ.2334 และ 2329

[แก้ไข] เจดีย์ปทุมวดี

        หรือเรียกอีกอย่างว่า 'สุวรรณเจดีย์' พระนางปทุมวดี มเหสีของพระเจ้าอาทิตยราชสร้างประมาณปี พ.ศ.1444 ก่อด้วยอิฐทรงสี่เหลี่ยม เนื่องจากเจดีย์องค์นี้หุ้มด้วยแผ่นทองทั้งองค์และพระนางปทุมวดีได้ใส่ทองคำไว้ที่ยอดเจดีย์ จึงได้ชื่อว่าสุวรรณเจดีย์ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของพระธาตุหริภุญชัย เขตพุทธาวาส ปัจจุบันได้รับการบูรณะจากกรมศิลปากรแล้ว

[แก้ไข] เจดีย์เชียงยัน

        หรือรัตนเจดีย์สร้างในสมัยพระยาสรรพสิทธิ์พุทธศตวรรษที่ 17 ส่วนยอดเจดีย์มีร่องรอยให้เห็นว่าห่อหุ้มด้วยแผ่นทองอย่างปราณีตมาก ดอกบัวแต่ละกลีบมีการหุ้มด้วยแผ่นทองไว้อย่างแนบเนียน

 

[แก้ไข] ที่มา

วัดพระธาตุหริภุญไชยวรมหาวิหาร ตำบลในเมือง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน

[แก้ไข] ความสำคัญ

"พระธาตุหริภุญไชย", พระอารามหลวง ชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร

[แก้ไข] สังกัดคณะสงฆ์

มหานิกาย

 

 

 

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

เว็บไซต์ธรรมะไทย

เว็บไซต์วัดในเชียงใหม่


ภาพประกอบทางอินเตอร์เน็ต