หิมะถล่ม
หิมะถล่ม คือ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ และนับว่าเป็นภัยธรรมชาติอีกอย่างหนึ่งที่สร้างความสูญเสีย และสร้างความเสียหายให้แก่มนุษยชาติอย่างมาก สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดหิมะถล่มนี้คาดว่ามาจากภาวะโลกร้อน
[แก้ไข] หิมะถล่ม
เกล็ดหิมะสีขาวๆ ถ้ารวมกันเป็นก้อน และถล่มลงมา คุณลองคิดสิว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไป โอกาสรอดคงยาก หรือมีแค่เพียง 0.01% เพราะทั้งความหนาว แรงกระแทกมหาศาล มันจะปิดบังคุณซะมิดจนหายใจไม่ออก พลังระเบิดของมันทลายบ้านทั้งหลังได้สบายมาก พื้นที่ที่มีลานน้ำแข็ง รือหิมะปกคลุมจัดว่าเป็นพื้นที่อ่อนไหว แรงสะเทือนจากแผ่นดินไหว หรือนักสกี ช่วยทำให้มันถล่มลงมาเร็วขึ้น ตามสถิติหิมะได้คร่าชีวิตคนบน เทือกเขาร็อคกี้ เทือกเขาแอนดีส เทือกเขาแอลป์ และเทือกเขาในออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ นับครั้งไม่ถ้วน และมันก็จะมีขึ้นอีกเรื่อยๆ
[แก้ไข] หิมะถล่มที่หิมาลัย
หิมะถล่ม (avalanche - แอแวแลนช์) เป็นการถล่มของหิมะปริมาณมหาศาลลงตามความชันของภูเขา หิมะถล่มเป็นภัยธรรมชาติที่ในเขตภูเขาในฤดูหนาว หิมะถล่มขนาดใหญ่สามารถถล่มเป็นระยะทางได้ยาวหลายๆกิโลเมตรและสร้างความเสียหายกับป่า บ้านเรือน ชีวิต หรือ อะไรก็ตามที่อยู่ในแนวการถล่ม ตัวอย่างของหิมะถล่มที่สร้างความเสียหายมากคือที่ เมือง Montroc ประเทศฝรั่งเศส เมื่อปี พ.ศ. 2542 หิมะราวๆ 300,000 ลูกบาศก์เมตร ถล่มลงมาตามความชันราวๆ 30 องศาของภูเขาจนมีความเร็วถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภัยหิมะถล่มครั้งนั้นส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 12 คนซึ่งอยู่ในบ้านพักขณะเกิดเหตุ หิมะถล่มได้ฝั่งบ้านพักด้วยความลึก 5 เมตรด้วยปริมาณหิมะราวๆ 100,000 ตัน
[แก้ไข] พายุหิมะถล่มฝั่งตะวันออกสหรัฐ
อากาศทั่วโลกวิปริตหนัก ฝั่งตะวันออกสหรัฐมีหิมะตกมากเป็นประวัติการณ์ ขณะที่มาเลย์-ฟิลิปปินส์เจอมรสุมกระหน่ำ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันจันทร์ (13 ก.พ.) ว่า อากาศทั่วโลกกำลังปั่นป่วนหนัก พื้นที่ฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐเกิดหิมะตกหนาเกือบ 70 เซนติเมตร ซึ่งหนักที่สุดในรอบหลายสิบปี ทำให้การคมนาคมทั้งทางบกและทางอากาศหยุดชะงัก
นายไมเคิล บลูมเบิร์ก นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก เตือนให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน เนื่องจากพายุหิมะครั้งนี้รุนแรงและอันตราย เพราะมีความเร็วลมถึง 64 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อีกทั้งพายุยังอาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมตามแนวชายฝั่งในหลายรัฐแถบนิวอิงแลนด์ ส่วนที่รัฐนิวเจอร์ซี รัฐนิวยอร์ก รัฐคอนเนคติคัต รัฐเวอร์จิเนีย และรัฐแมรีแลนด์ หิมะตกหนักทำให้ไฟดับ ขณะที่สนามบินบางแห่งในรัฐนิวยอร์ก รัฐนิวเจอร์ซี และรัฐเพนซิลเวเนีย ต้องยกเลิกเที่ยวบินกว่า 2,000 เที่ยว รถไฟและรถโดยสารในหลายเมืองต้องงดให้บริการเช่นกัน
ด้านหนังสือพิมพ์นิว สเตรทส์ ไทมส์ รายงานว่า ฝนตกหนักใน 3 รัฐทางตะวันออกเฉียงเหนือของมาเลเซีย ทำให้เกิดน้ำท่วมหนัก ประชาชนกว่า 800 คน ต้องอพยพหนีตาย มีผู้สูญหายอย่างน้อย 1 คน ขณะที่ปริมาณฝนหลงฤดูที่ตกลงมาในเขตดุนกุน รัฐตรังกานู ในช่วง 2 วัน วัดปริมาณน้ำฝนได้ประมาณ 550 มิลลิเมตร ซึ่งเกือบจะเท่ากับ 1 ใน 4 ของปริมาณฝนเฉลี่ยทั้งปีของมาเลเซีย ส่วนเหตุน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มในฟิลิปปินส์ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 คน อพยพหนีตายอีกเกือบ 3 หมื่นคน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก