เรือน - คติความเชื่อของภาคกลาง

วันที่เอกสารถูกสร้าง: 
23/03/2009
ที่มา: 
เว็บไซต์ฅนไทยดอทคอม http://www.khonthai.com

เรือน - คติความเชื่อของภาคกลาง

 

  • ฤกษ์ปราบดิน    คือการหาผู้รู้หรือโหรตรวจดูที่ดิน หาฤกษ์ปราบดิน สำรวจที่ดินว่าจะเป็น

โขดเป็นเนินปลวก มีหลักตอ มีขอนท่อนไม้หรืออะไรที่แกะกะจมฝังดินอยู่บ้างหรือไม่ถ้ามีก็จัดการ
ถอนทิ้งและปราบดินให้เรียบ

  • วิธีชิมรสดิน  ขุดหลุมลึกราวศอกเศษเอาใบตองปูไว้ใต้ก้นหลุมนำหญ้าคาสดและสะอาดทับไว้ ข้างบนใบตองสักกองหนึ่ง ทิ้งไว้ค้างคืนจนไปดินเป็นเหื่อที่จับบนใบตองถ้ามีรสหวานแสดงว่าที่นั่นมี คุณสมบัต ิปานกลางพออยู่ได้  ถ้ามีรสจืดถือว่าดีเป็นมงคลอยู่เย็นเป็นสุข    หากมีรสเค็มและรสเปรี้ยวไม่ เป็นการดี ส่วน วิธีดมดินให้ขุดดินขึ้นมาดมดู ถ้ามีกลิ่นหอมดังดอกบัวหรือดอกสารภี แสดงว่าที่นั่นอุดม สมบูรณ์ ดีนักเรียกว่าที่พราหมณ์   ถ้ากลิ่นหอมดังดอกพิกุลเรียกว่าสัตภูมิดี  เช่นกันจะอยู่เย็นเป็นสุขถ้า กลิ่นหอมเย็นหรือหอมดังดอกไม้อย่างอื่น   ก็ถือเป็นพื้นที่ที่ดีเหมือนกัน ถ้ากลิ่นเผ็ดหรือกลิ่นเหม็นกลิ่นเค็มถือว่าเป็นทำเลที่ไม่ดี
  • เสาเรือนและโฉลกเสาเรือน การเลือกเสาเรือนข้อสำคัญอยู่ที่รู้จักเลือกเสาที่ดีมีความคงทนไม่มี ตำหนิเป็นตาไม้ในที่สำคัญ หรือมีรูที่ทำให้มดปลวกตัวแมงเจาะชอนไชเข้าไปได้

    ลักษณะของเสาและเตาเสาที่ดีสำหรับเลือกใช้เป็นเสาเรือนนั้น ให้เลือกเสาที่มีโคนต้นและข้างปลายใหญ่เสมอกัน ซึ่งได้ชื่อว่า "อุดมพฤกษ์" จัดเป็นไม้ที่ดีมากหรือจะเลือกเสาที่โคนต้นใหญ่ข้าง ปลายเล็กซึ่งได้ชื่อว่า " ไม้ตัวเมีย"  ก็ได้ เพราะจัดเป็นไม้ที่ดีตามตำราปลูกเรือนในคติโหราศาสตร์

  • ส่วนเสาที่ไม่ควรเลือกมาทำเสาเรือน คือ เสาที่มีตาเข้าลักษณะ เป็ดไซ้ ไก่ตอด สลักรอด หมูสี หรือเสาคตอย่างน่องช้างคือเป็นเสาที่มีตาอยู่ในตำแหน่งที่เป็ดมาใช้ไก่มาตอด หมูเอาสีข้างมาสีกับเสา เรือนเหล่านี้จะทำให้เสาเรือนสึกหรือแมลง และปลวกสามารถชอนไชเข้าทำรังได้

เสาสำหรับปลูกเรือนมักใช้ไม้เต็งรังเพราะมีขนาดทำเสาเรือนได้เหมาะเนื้อไม้แข็งแกร่งคงทน
ฝังอยู่ใต้ดินได้ไม่ผุ หากเป็นถิ่นที่หาไม้เต็งไม้รังได้ยากเช่น ภาคเหนือ จะใช้ไม้สักแทน ไม้บางชนิดไม่
นิยมใช้ทำเสาเรือน อาทิ ไม้ซาก ไม้กะเบ ไม้พยอม คำว่า ซาก บก (แห้ง) เบาย่อมถือว่าชื่อไม่เป็นมงคล
ไม้ตะเคียนก็ห้ามไม่ให้ใช้เพราะมีน้ำมันมากถ้าใช้เป็นเสามักตกมัน ถือกันว่าเป็นอัปมงคล

  • เสาเรือนจัดไว้เป็น   5  ชนิด คือ เสาดั้ง เสาเอก เสาโท เสาตรี และเสาพล หรือ เสาสามัญ เสาเอกคือเสาต้นที่ดีงามกว่าเพื่อนรองลงมาเป็นเสาโทเสาตรีนอกนั้นถือเป็นเสาสามัญทุกเสาต้องมีขนาด และความสูงพอกันทุกเสาก่อนจะเจาะสลักรูรอดเสา ให้ทำการวัดโฉลก คำโฉลกมี  ชยกํ  ปริคตํ  นวทํ กล่าว คาถาจนกว่าจะถึงตรงที่หมายเอาไว้ จะตกโฉลกโชคชัยอย่างไร จึงจะได้สัดส่วนที่เป็นมงคล
  • การขุดหลุม  ก่อนปลูกเรือนโหรจะตรวจดูพื้นดินว่าเดือนใดนาคหันหัวและหลังไปทิศใดแล้ว จึงขุดหลุมที่ตำแหน่งท้องนาคโดยคนขุดหลุมต้องหมุนหน้าเข้าหาท้องนาคเสมอ เมื่อจะขุดหลุมเสาแรก ต้องทำเครื่องบัดพลีบูชาพญานาคเสียก่อน ใช้ไม้ราชพฤกษ์และไม้อินทนิลทำด้ามเสียม สำหรับขุดให้หาคนชื่ออินทร พรหม ชัย แก้ว ทำหน้าที่ขุดหลุมให้ครบตามจำนวนที่ประมาณไว้
  • ทำบัดพลี   ก่อนเริ่มทำขวัฐเสาและยกเสาสงหลุมต้องทำบัดพลี คือ ปลูกศาลเพียงตาไหว้พระภูมิเจ้าที่เพื่อขอที่ดินต่อผู้รักษาผืนดินก่อน เครื่องบัดพลีที่ใช้มี หมาก พลู มะพร้าวอ่อนขนมต้ม แดง ต้มขาว กล้วยน้ำว้า ไข่ต้ม หมู ฯลฯ ให้วางเครื่องบัดพลีบริเวณหลุมเสาของห้องนอน มีการเจิมหัวเสา  ลงยันต์ตรีนิสิงเห มีต้นอ้อยหน่อกล้วย น้ำว้าผูก ติดกับติดกับเสาเอก
  • ทำขวัญเสา เมื่อขุดหลุมเสาเสร็จ รุ่งขึ้นเป็นฤกษ์ทำขวัญเสาและยกเสาลงหลุม โดยเริ่มงานแต่เช้าตรู่หลังทำบัดพลีแก่เจ้าที่เจ้าทางและสังเวยผีนางไม้ซึ่งเกี่ยวข้องกับเสาเสร็จแล้ว จึงทำขวัญเสาซึ่งมี บายศรีเช่นเดียวกับพิธีทำขวัญอื่นๆ โดยกล่าวบทเชิญขวัญไปตลอดและจบลงที่กล่าวให้พรแก่ผู้เป็นเจ้าของเรือนพิธีทำขวัญ  อาจมีปี่พาทย์ประโคมและนิมนต์พระพระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์บทชัยมงคล
  • ยกเสาเรือน   เสาแรกที่ต้องยกเป็นเสาเอก ให้ปักเสาเอกเป็นฤกษ์ทางทิศตะวันออก หรือทิศอื่น ๆที่โหรกำหนดเป็นทิศฤกษ์ ห้ามปักในทิศตะวันตก ลำดับต่อไปปักเสาโทในทิศตรงข้ามกับเสาเอกแล้วปักเสาตรีเวียนไปทางขวาและปักเสาอื่นๆ ในทำนองเดียวกันจนครบจำนวนการปักเสาต้องให้ปลายเสาหันไปในทิศที่โหรตรวจดูให้เป็นมงคล

อ้างอิงต้นฉบับ : http://www.khonthai.com/Vitithai/home5.htm

ต้องการอ่านเนื้อหาทั้งหมด ไปหน้ารวม link เรือนไทยสี่ภาค คลิ๊กเลยจ้า!