วันที่เอกสารถูกสร้าง: 
20/12/2007
ที่มา: 
มูลนิธิกระจกเงา โครงการพิพิธภัณฑ์ชาวเขาออนไลน์ http://www.hilltribe.org

ชนเผ่าลาหู่ :การปกครอง

โครงสร้างการปกครองของลาหู่จะมีการปกครองในระดับ ชุมชนตามระบบจารีตประประเพณีการปกครอง เมื่อมีการร้องเรียนของชาวบ้านมาถึงผู้นำ ผู้นำจะต้องเรียกคู่กรณีทั้งสองฝ่ายและหัวหน้าครอบครัวทุกคนมา เพื่อชี้แจงและตัดสินชี้ขาด ถ้าหากผลการตัดสินเกิดความขัดแย้งขึ้น ก็จะให้ผู้อาวุโสตัดสินเพื่อที่จะทำให้เกิดความยุติธรรมกันทุกฝ่ายอย่าง อิสระ ถ้ามีการปรับเป็นเงินตามอัตราที่ตามกฎจารีตประเพณมีไว้ แต่ถ้าเป็นกระทำผิดที่รุนแรง แล้วผู้กระการทำผิดอาจได้รับโทษโดยการถูกขับไล่ออกจากหมู่บ้านไป ผู้นำหมู่บ้าน มีอำนาจหน้าที่ ในการปกครองดูแลลูกบ้านในด้านความสงบสุข ความปลอดภัย ชักจูงให้ลูกบ้านร่วมปฎิบัติงานเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ในสังคมลาหู่นี้การปกครองและการตัดสิน จะเกี่ยวข้องกับจารีตประเพณีทุกอย่าง
    
การคัดเลือกผู้นำ

การคัดเลือกผู้นำของลาหู่จะเกิดขึ้นโดยการออกเสียงของช่วบ้าน อาจจะมีการสืบเชื้อสายกันบ้าง แต่ส่วนใหญ่ชาวบ้านจะเลือกกันเองมากกว่า จะไม่มีการเกษียณอายุ อยู่ที่ผู้นำว่าจะลาออกหรือไม่แต่ถ้าเกิดผู้นำทำความผิดเช่น ไม่ดูแลหมู่บ้าน หรือไม่พัฒนาหมู่บ้าน ก็อาจจะโดนไล่ออกได้โดยเสียงของประชาชนในพื้นที่ เป็นผู้นำจะต้องมีความสามารถหลายด้านเช่น พูดแล้วชาวบ้านเชื่อฟ้งและต้องมีศักยภาพที่ดี มีความสามารถในการพัฒนาหมู่บ้าน

ลักษณะการปกครอง
การปกครองของชาวลาหู่เป็นการปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย หญิงชายมีสิทธิเท่าเทียมกับ ผู้หญิงมาเป็นผู้นำก็ได้เหมือนกับผู้ชาย

ลักษณะของครอบครัว

โดยปกติแล้วจะอยู่ร่วมกันทั้งครอบครัว ลาหู่มีลักษณะเป็นครอบครัวเดียว ภายในครอบครัวหนึ่ง จะมีสมาชิก อยู่หลายคนคือ พ่อ แม่ ลูกชาย ลูกสาว หลานและมีผู้เฒ่าผู้แก่ด้วย ถ้ามีเหตุการณ์ร้ายๆเกิดขึ้นในครัวเรือน หรือกับสมาชิกคนใดคนหนึ่ง สมาชิกทุกคนในครัวเรือนนั้นๆก็จะช่วยการแก้ไขปัญหาร่วมกัน แล้วถ้าหากในครัวเรือนมีงานแต่งงานเกิดขึ้นไม่ว่าของบุตรชาย หรือบุตรสาว หัวหน้าครัวเรือนคือพ่อต้องจัดงานแต่งงานตามระบบจารีตประเพณีของลาหู่ที่มี อยู่ให้กับบุตรของตน

การตัดสินคดีความหรือเรื่องราวต่างๆ
ในสมัยก่อนการตัดสินคดีความหรือเรื่องราวต่างๆ จะเป็นหน้าที่ของผู้นำหมู่บ้านและผู้อาวุโส ในการตัดสิน และเมื่อมีกรณีทะเลาะวิวาท ในหมู่บ้าน วิธีการตัดสินคือผู้นำหมู่บ้านจะต้องเชิญผู้อาวุโสมาด้วย ให้ผู้อาวุโสไกล่เกลี่ยหาข้อตกลง ผู้อาวุโสก็ถามทั้งสองฝ่าย และให้ทั้งสองฝ่ายอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อาวุโสก็รับฟังเหตุการณ์จากทั้งสองฝ่าย แล้วจะรู้เลยว่าคนไหนถูก-ผิด ผู้นำหมู่บ้าน และผู้อาวุโส จะตัดสินโดยเด็ดขาดเลยว่าใครผิดใครถูก ทั้งสองฝ่ายก็จะต้องยอมรับการตัดสินของผู้นำและผู้อาวุโส สมัยนี้การตัดสินคดีความหรือเรื่องราวต่างๆ ส่วนมากจะไปใช้ตามกฎหมายของรัฐบาล จะไม่ค่อยใช้การตัดสินของผู้เฒ่าผู้แก่ ต่างคนต่างมีความรู้ จะไปใช้ตามกฎหมายของรัฐบาล มีส่วนน้อยที่จะใช่กฏของหมู่บ้าน เพราะว่าคนรุ่นใหม่ ได้เรียนรู้และมีการพัฒนาตนเองอย่างสูงเลย ใช้ตามกฎหมายของรัฐบาลจะใช้เป็นสื่อกลาง เพราะว่าอีกส่วนหนึ่งก็เกี่ยวข้องว่าเราอยู่เมืองไทยจะต้องให้ความเคารพใน กฎหมายไทย ไปไหมมาไหนก็มีแต่กฎหมายบังคับทุกที่ทุกแห่ง ชาวลาหู่ในปัจจุบันนี้จะต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลง ของสังคมภายนอกที่เข้ามาสู่ในชุนชน

การประชุมหมู่บ้าน

การประชุมหมู่บ้านของชาวลาหู่จะมีวิธีการให้ผู้นำหมู่บ้าน ประกาศหาผู้เฒ่าผู้แก่มาก่อน แล้วหลังจากนั้นก็ สมาชิกหัวหน้าครอบครัวจะตามมาและให้ผู้นำบอกกล่าวถึงเรื่องราวที่อยากแจ้ง ให้คนในชุมชนทราบโดย ให้ผู้เฒ่าผู้แก่และสมาชิกหมู่บ้านรับฟังด้วย และคุยหาข้อตกลงต่างๆกัน เช่นจะมีการตั้งกฎระเบียบและข้อบังคับกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่จะใช้ในหมู่บ้านนี้ จะต้องให้สมาชิกรับรู้และแสดงความคิด เห็นก่อนว่าเหมาะสมกับในท้องถิ่นเราหรือไม่ หากผ่ามการลงมติของสมาชิกแล้ว กฎระเบียบและข้อบังคับหรือกฎเกณฑ์ต่างๆก็จะนำไปสู่การใช้ถายในชมุชน และจะต้องไม่ขัดแย้งกับจารีตประเพณีเด็ดขาด