นิทานลาหู่ - การแต่งงานของเด็กกำพร้าและพญานาค

วันที่เอกสารถูกสร้าง: 
14/01/2008
ที่มา: 
มูลนิธิกระจกเงา โครงการพิพิธภัณฑ์ชาวเขาออนไลน์

นิทานลาหู่-การแต่งงานของเด็กกำพร้าและพญานาค

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชายหนุ่มที่เป็นกำพร้าคนหนึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง วันหนึ่ง เขาเอาไซไปใส่ไว้ในน้กเพื่อ จะจับปลากับเพื่อน แต่ด้วยความที่เขาเป็นลูกกำพร้าเลยมักจะมีคนดูถูกและไม่ค่อยอยากจะพูดคุยด้วย ทุกครั้งที่เขาไปจับปลา มักจะถูกคนอื่นแกล้งแย่งที่หาปลาดี ๆ ไปหมด แล้ววันหนึ่งโชคก็เป็นของเขา ฝนตกหนักทำให้น้ำป่าไหลมาจนปลาที่อยู่ในไซ ไหลออกไปหมด เหลือแต่ไซของเขาที่ยังคงมีปลาเหลืออยู่หนึ่งตัว พอเขามาเก็บไซก็กะไว้ว่าเย็นนี้จะทำปลากิน แต่พอทำกับข้าว เสร็จก็คิดได้ว่าลืมเอาปลามาทำอาหาร เป็นแบบนี้อยู่ 3 มื้อ จนเขาเอาปลาใส่ไว้ในไหพร้อมกับใส่น้ำเอาไว้ด้วย วันหนึ่งเขาออก ไปทำไร่ พอกลับมาก็ต้องประหลาดใจที่เห็นบ้านสะอาดสะอ้านเหมือนมีคนมาทำความสะอาดให้ทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครสักคนอยู่ใน บ้าน ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีอาหารที่เสร็จหอมกรุ่นรออยู่ด้วย เวลาผ่านไป 3 วัน ทุกอย่างก็เป็นเหมือนเดิม จนกระทั่งวันที่ 4 เขาก็ แกล้งจะไปไร่เพื่อจะย้อนกลับมาจับผิดดูว่าใครเป็นคนมาทำทุกอย่างให้เขา เมื่อย้อนกลับมาที่บ้านเขาก็ต้องพบกับเหตุการณ์ แปลกประหลาด เมื่อเห็นปลาที่จับมาได้กระโดดลงจากไหแล้วกลายร่างเป็นคน ออกมาแต่งหน้า หวีผม ทำความสะอาดแล้ว ก็ทำกับข้าว พอเห็นดังนั้นเขาก็รีบวิ่งมาทุบไหแตกเพื่อที่จะไม่ให้หญิงสาวผู้นั้นกลับลงไปในไหอีก จากนั้นเป็นต้นมาทั้งคู่ก็ อยู่กินกันฉันสามีภรรยา

ครั้งหนึ่งหญิงสาวก็ถามสามีว่าอยากได้อะไรตนจะเสกให้ สามีก็บอกว่าอยากได้ทั้ง ช้าง ม้า วัว ควาย นางก็บอกว่าอยากได้อะไร ก็ให้ไปทำคอก ว่าแล้วเขาก็รีบไปทำคอกแล้วกลับมาบอกภรรยาว่าอยากได้วัว พอเช้าวันรุ่งขึ้นในคอกที่ทำไว้ก็เต็มไปด้วยวัว พันธุ์ดี ๆ จากนั้นเขาก็ขยันทำคอกแล้วก็ขอทั้งช้าง ม้า วัว ควายจนครบ แล้วครอบครัวนี้ก็ร่ำรวยขึ้น จนวันหนึ่งเศรษฐีใน หมู่บ้านก็มายุแหย่ว่า เมียของเขาไม่สวยหรอก สู้ลูกสาวตนก็ไม่ได้ แล้วชายหนุ่มก็หลงกล หาเรื่องทะเลาะเพื่อ จะเลิกกับภรรยา หญิงสาวเลยถามเขาว่า เขาไม่รักนางแล้วใช่ไหม และขอร้องว่าอย่าทิ้งนางเลยเพราะถ้าเขาทิ้งนางไป เขาอาจจะกลับไปจน เหมือนเก่าก็ได้ แต่เขาก็ไม่ยอมฟัง ได้ฟังดังนั้นนางก็ขอร้องสามีเป็นครั้งสุดท้ายให้ไปส่งตรงที่ที่เขาได้นางมา พอนางลงน้ำไป ได้น้ำระดับเอวก็ถามสามีว่าจะทิ้งนางจริงหรือ พอน้ำถึงปากนางก็ถามอีก ทันทีที่นางหายไปในน้ำ บรรดาสัตว์ต่าง ๆ ที่นางเสก มาให้เขาก็พลันหายไปด้วย พอส่งภรรยาแล้วเขาก็กลับไปหาเศรษฐีพูดคุยเรื่องที่จะแต่งงานกับลูกสาวเขา แต่เศรษฐีกลับปฏิเสธ เพราะว่าเขาเหลือแต่ตัวแล้ว สมบัติก็ไม่มีจึงไม่ยอมยกลูกสาวให้

เช้าวันรุ่งขึ้น ชายหนุ่มก็ไปนั่งร้องไห้สำนึกผิดตรงที่ที่เขามาส่งภรรยาเมื่อวาน และแล้วก็มีกบกระโดดผ่านมา มันสงสัยเลยถาม ว่าร้องไห้ทำไม เขาเล่าเรื่องทั้งหมดให้กบฟัง กบได้ฟังดังนั้นก็บอกว่าจะช่วย ให้มาพรุ่งนี้ใหม่พร้อมกับถั่วเหลืองคั่ว รุ่งขึ้นเขาก็ มาตามสัญญา กบก็กินถั่วเหลืองแล้วก็สูบน้ำจนเกือบหมด แต่แล้วก็ต้องปล่อยน้ำออกมาอีก เพราะว่าชายหนุ่มหัวเราะเยาะ มันตอนที่พองตัวสูบน้ำ เรื่องเป็นอยู่อย่างนี้ถึง 3 ครั้ง จนกระทั่งครั้งสุดท้าย กบก็บอกว่านี่เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ถั่วก็กำลังจะหมด ถ้าเขายังหัวเราะอีกก็จะไม่ช่วยแล้ว แล้วเขาก็พยายามกลั้นหัวเราะเอาไว้ กบก็สูบน้ำได้จนหมด ทำให้เขาเห็นภรรยากำลังทอผ้า อยู่ใต้น้ำ และได้รู้ว่านางเป็นลูกพญานาคใต้น้ำ พอนางเห็นสามีมาตามก็ถามว่ามาทำไม เขาก็พยายามหาเหตุผลมาพูดให้นาง เห็นใจแล้วกลับไปบนบกด้วยกัน แต่ด้วยความที่พ่อของนางต้องการจะพิสูจน์ลูกเขย เลยคิดจะเล่นซ่อนหาเพื่อพิสูจน์ว่ามีความ พยายามและความเก่งกล้าเหมาะสมมาเป็นลูกเขยตนหรือไม่ แต่ด้วยความที่เป็นคนธรรมดา เขาก็ไม่สามรถหาพ่อตาได้เจอเลย ไปถามภรรยา นางก็บอกว่าให้ขึ้นไปบนดอย แล้วโอบกอดต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดแล้วร้องว่า “ พ่อเฒ่า ” และแล้วเขาก็สามารถหา พ่อตาที่ซ่อนอยู่ในต้นไม้จนเจอ อีกครั้ง เขาก็ไปถามภรรยาอีก นางก็บอกให้ไปที่เครือไม้แล้วกอดเครือไม้พร้อมพูดเหมือนเดิม ครั้งนี้เขาก็ทำสำเร็จอีก จนกระทั่งครั้งสุดท้าย หญิงสาวก็ให้ไปหาที่ดงกล้วย แล้วกอดต้นกล้วยต้นที่ใหญ่ที่สุด ครั้งนี้เขาทำสำเร็จ อีก จนพ่อตาไว้วางใจรับเขาเป็นลูกเขย จากนั้นสองสามีภรรยาก็อยู่กันอย่างมีความสุข