ค้นหา
เมนู
- หน้าหลัก
- หมวดหมู่
- ภัยพิบัติ (65)
- ธรรมชาติ (286)
- วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (172)
- สังคม (2814)
- วัฒนธรรม (3270)
- ความรู้พื้นฐานทางวัฒนธรรม (19)
- ชาติพันธุ์ (531)
- ประเพณี (780)
- ภูมิปัญญาไทย (1652)
- เครือข่ายทางวัฒนธรรม (204)
- วัฒนธรรมหลวง (17)
- เนื้อหาวัฒนธรรมรอจัดหมวด (0)
- ศิลปะและการบันเทิง (699)
- ศาสนาและจิตวิญญาณ (7090)
- เนื้อหารอจัดหมวด (26)
- ค้นหาชั้นสูง
- บริจาคเนื้อหา
- เกี่ยวกับโครงการ
ล็อกอิน
นิทานลีซู - สองนักบวชอยากเป็นเทพ
นิทานลีซู-สองนักบวชอยากเป็นเทพ
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีนักบวชหนุ่มอยู่ 2 รูป นักบวชทั้งสองนี้กินข้าววันละ 3 มื้อ และกินเนื้อสัตว์ด้วย ต่อมาอยากจะออกแสวงบุญเพื่อบรรลุนิพพานจะได้กลายเป็นเทพ จึงได้ตั้งใจอดอาหาร กินแต่ขนมและผลไม้เท่านั้น แต่เทพบนสวรรค์เห็นว่าทั้งสองไม่เหมาะสมที่จะกลายเป็นเทพ จึงได้ลงมายังโลกมนุษย์เพื่อทดสอบและห้ามไม่ให้้นักบวช 2 รูป นี้ออกแสวงบุญ
วันหนึ่งขณะที่นักบวชทั้ง 2 รูป นี้เดินทางไปเพื่อออกแสวงบุญ เทพจำแลงได้แปลงร่างเป็นชายชราลงมาทักทายว่า “นักบวชทั้ง 2 ท่านนี้จะไปไหนหรือ”นักบวชจึงตอบว่าเขาจะไปแสวงบุญเพื่อจะได้กลายเป็นเทพ เทพจำแลงจึงบอกว่า “พวกท่านจะทำได้จริงหรือ”นักบวชทั้ง 2 รูป จึงตอบว่า “ได้ซิ พวกข้าทั้งสองไม่กินข้าว ไม่กินเนื้อ กินแต่ขนมและผลไม้เท่านั้น”เทพจำแลงแกล้งถามไปอีกว่า “แน่ใจหรือว่าจะไม่กินข้าวไม่กินเนื้อได้ตลอดไป”ทั้งสองก็ยืนยันเป็นเสียงหนักแน่นว่าได้แน่นอน ดังนั้นทั้ง 3 จึงเดินทางต่อไป ระหว่างทางเทพจำแลงก็เริ่มทดสอบ 2 นักบวชหนุ่ม โดยแกล้งบอกว่าตนอยากกินลาบเนื้อดิบให้นักบวช 2 รูป นี้ไปซื้อมาให้ตน
นักบวชทั้งสองจึงไปซื้อลาบเนื้อดิบให้เทพจำแลง เมื่อไปถึงร้านขายเนื้อ เจ้าของร้านก็ถามว่า พวกท่านกำลังจะเดินทางไปไหนหรือ นักบวชหนุ่มก็ตอบว่า ข้าทั้งสองกำลังเดินทางไปแสวงบุญ แต่ชายชราเพื่อนของข้าอีกคนบอกว่าอยากกินลาบเนื้อดิบ จึงมาซื้อให้เจ้าของร้านขายเนื้อซึ่งมีภรรยาและครอบครัวแต่พอได้ยิน 2 นักบวชหนุ่มบอกว่าจะออกแสวงบุญเขาจึงอยากไปด้วย และได้ตามสองนักบวชหนุ่มไปโดย ไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าและล้างมือซึ่งเปื้อนเลือดสัตว์ที่เขาฆ่า
พอทั้งสามไปถึง เทพจำแลงก็ร้องทักและบอกว่า “เจ้าทั้งสามแน่ใจว่าจะไปได้จริงๆหรือ”ทั้งสองก็ตอบเป็นเสียงกันว่าได้แน่นอน ระหว่างทางเจอบ้านหลังหนึ่ง มีแม่ม่ายและลูกสาวสองคน อาศัยอยู่ เทพจำแลงจึงบอกว่าเจ้าทั้งสามคนไม่ต้องไปแล้ว แต่งงานกับแม่ม่ายและลูกสาวสองคนนี้เถอะ คนขายเนื้อบอกว่าข้าไม่แต่งหรอก ถ้าคิดจะเอาเมีย ข้าคงไม่ออกมาแสวงบุญอย่างนี้หรอก เพราะข้าก็มีลูกมีเมียแล้ว ข้ายังทิ้งมาได้ ส่วนนักบวชหนุ่ม 2 รูป กลับบอกว่าจะยอมอยู่กินกับลูกสาวแม่ม่ายที่นี่
ดังนั้นคนขายเนื้อกับเทพจำแลงจึงออกเดินทางต่อไป ขณะที่เดินทางไปสักพัก เทพจำแลงก็บอกว่าตนลืมของไว้ที่บ้านแม่ม่าย ให้คนขายเนื้อไปเอามาให้ตน คนขายเนื้อจึงกลับมาเอาของแต่กลับพบว่าหลังที่ตนผ่านมากลับกลายเป็นกระต๊อบที่มุงด้วยใบไม้และเห็นเสือสมิง 3 ตัว กำลังรุมกินเนื้อของสองนักบวชหนุ่มอย่างเอร็ดอร่อย ชายขายเนื้อจึงวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิตและกลับมาบอกเทพจำแลงว่า แย่แล้วแม่ม่ายสามแม่ลูกนั้น แท้จริงเป็นเสือสมิงไม่ใช่คนและกำลังกินเนื้อของสองนักบวชอยู่ บ้านที่เราเห็นหลังใหญ่แต่ที่จริงเป็นเพียงกระต๊อบเล็กๆช่างน่ากลัวนัก “เทพจำแลงจึงพูดว่า ข้าบอกแล้วเขาไปไม่ได้ นักบวชสอง 2 รูป นี้ยังไม่สมควรออกแสวงบุญ แต่เขาไม่เชื่อก็เลยต้องพบจุดจบแบบนี้
หลังจากนั้น ทั้งสองเดินทางต่อไป จนพบแม่น้ำขนาดใหญ่มีสีเขียวเข้ม ชายขายเนื้อกังวลกับการข้ามฟากเป็นอย่างมาก ในขณะที่เทพจำแลงเดินข้ามไปอย่างง่ายดาย ชายขายเนื้อจึงพูดกับตัวเองว่า “ไหนๆมาแล้ว ถ้าไม่ถึงเวลาก็คงไม่ตายหรอก”เขาจึงตัดสินใจเดินข้ามน้ำไป ปรากฏว่าสามรถผ่านไปได้ พอข้ามฟากไปได้สักพัก เทพจำแลงก็แกล้งให้เขากลับไปเอาของอีกฟาก โดยอ้างว่าเขาลืมของไว้ ชายขายเนื้อจึงต้องย้อมกลับไปเอาของ ระหว่างข้ามฟากเขาเห็นหนังสุนัขสีเหลืองเน่า มีหนอนขึ้นเต็มไปหมด ส่งกลิ่นเหม็นมากอยู่ข้างฝั่งโน้น ข้าจึงไม่กล้าข้ามไปเอาของให้ท่าน เทพจำแลงจึงบอกกับเขาว่า “นี่แหล่ะที่เหล่าเทพรังเกียจพวกเจ้า และนั่นแหล่ะ คือ หนังของเจ้า “ดังนั้นชายขายเนื้อจึงได้กลายเป็นเทพสมดังตั้งใจ”