ลักเงินในตู้โทรศัพท์

วันที่เอกสารถูกสร้าง: 
21/01/2008
ที่มา: 
www.siamlaw.com โดย คุณ ลีลา LAW

ลักเงินในตู้โทรศัพท์
        หลายคนอาจเคยใช้บริการตู้โทรศัพท์สาธารณะมาแล้วล้วนทราบว่าถ้าการติดต่อไม่สำเร็จ เครื่องต้องคืนเงินแก่ผู้ใช้ด้วย แต่หลายครั้งเราจะไม่ได้เงินคืนอันเนื่องมาจากเครื่องชำรุดหรือถูกมิจฉาชีพสอดบางสิ่งขัดขวางมิให้เงินไหลออกมา ทำให้เราเอือมระอาจะเรียกร้องเอาคืนจากเจ้าของโทรศัพท์เพราะเห็นเป็นเงินจำนวนเล็กน้อย ถ้าเราเห็นโจรเอาเงินจากตู้เหล่านั้นไปด้วยตาตัวเอง จักมีสิทธิแจ้งความจับโจรเหล่านั้นได้หรือไม่ โจรบางคนอาจเถียงว่าเราไม่มีสิทธิ์แจ้งความตำรวจเพราะมิใช่เจ้าของเงินหรือเป็นผู้เสียหายที่แท้จริง จึงเกิดคำถามค้างใจว่า ผู้ใช้โทรศัพท์ซึ่งมีเงินติดค้างในตู้แล้วเห็นการกระทำผิดดังกล่าวซึ่งหน้า จักแจ้งความกับตำรวจได้ไหม เมื่ออดีตเคยมีโจรหัวหมออ้างเหตุผลดังกล่าวเมื่อถูกเจ้าของเงินแจ้งตำรวจจับกุมมาแล้ว จนกระทั่งศาลพิพากษาให้เป็นบรรทัดฐานใน คำพิพากษาฎีกาที่ 4208/2543 การสละกรรมสิทธิ์ต้องกระทำด้วยความสมัครใจ มิใช่อยู่ในลักษณะที่ถูกขัดขวางการได้ทรัพย์คืน กรณีเงินเหรียญในตู้โทรศัพท์ซึ่งจักตกลงในช่องคืนเหรียญเนื่องจากไม่สามารถโทร.ติดต่อไปยังสายปลายทางได้ เหรียญยังเป็นของผู้ใช้บริการอยู่ การที่จำเลยนำก้อนกระดาษไปอุดช่องคืนเหรียญ เป็นเพียงการขัดขวางมิให้เหรียญตกกลับไปยังผู้ใช้บริการ ขณะที่เหรียญตกค้างบนก้อนกระดาษในช่องดังกล่าว ความผิดลักทรัพย์ยังไม่สำเร็จ ความครอบครองยังอยู่กับเจ้าของเงิน แม้เขาจะออกจากตู้ไป มิได้หมายความว่ามีเจตนาสละทิ้งเหรียญที่ติดค้าง ต่อมาจำเลยล้วงเงินดังกล่าวมาอยู่ในมือของจำเลยกับพวกแล้ว จึงกลายเป็นความผิดฐานลักทรัพย์โดยสมบูรณ์และกระทำร่วมกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป อันถือเป็นเหตุฉกรรจ์ให้ต้องรับโทษสูงขึ้นด้วยตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (7) กำหนดว่า ผู้ใดลักทรัพย์โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป ต้องระวางโทษตั้งแต่หนึ่งปีถึงห้าปี และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นบาท เจ้าของเงินย่อมเป็นผู้เสียหายแจ้งความจับคนร้ายได้ และยังทำให้เข้าใจลักษณะการลักทรัพย์ที่เป็นการพยายามกับความผิดสำเร็จครบถ้วนชัดเจนขึ้น

        กรณีศึกษาข้างต้นเราอาจปรับใช้กับการเก็บของตกหล่น การเด็ดผลไม้ในบ้านคนอื่น หรือหยิบของจากกระบอกหนังสือพิมพ์หน้าบ้านคนอื่นโดยพลการ ผู้กระทำอาจมีความผิดฐานลักทรัพย์ได้ เนื่องเพราะเจ้าของมิได้เจตนาสละกรรมสิทธิ์ในสิ่งของเหล่านั้นโดยสมัครใจ หากท่านใช้อุบายขัดขวางการติดตา


--------------------------------------------------------------------------------

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

www.siamlaw.com โดย คุณ ลีลา LAW

ประเภทของหน้า: บทความกฎหมาย