พระธรรมโกศาจารย์ แนะทางแก้ไขวิกฤตขัดแย้งสังคมไทย

มจร. แนะทางแก้ไขวิกฤตขัดแย้ง
ทำเหมือนน้ำ-ยึดพรหมวิหาร 4

พระธรรมโกศาจารย์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย กล่าวบรรยายพิเศษเรื่อง ครูพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนกับการอบรมสั่งสอนเด็กและเยาวชน ตามแนวพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่องรู้รักสามัคคี จัดโดยสำนักพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม กรมการศาสนา ว่า

ตอนนี้สังคมไทยมีปัญหาการแตกความสามัคคี แบ่งฝักแบ่งฝ่าย แม้แต่ในวัดก็ยังมีคนเข้าไปถามว่าอยู่ฝ่ายไหน ฝ่ายม็อบหรือฝ่ายรัฐบาล ในห้องเรียนก็ยังแบ่งเป็นกลุ่ม นี่คือปัญหาที่ต้องหาว่าจะแก้อย่างไร ซึ่งบางคนบอกว่าต้องสายกลาง ขณะที่บางคนบอกว่าฝ่ายไหนชนะเข้าฝ่ายนั้นพร้อมเสียบ

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายสนับสนุนในที่สุดก็ต้องมาพบกันและนำไปสู่สิ่งใหม่ที่ดีกว่า สังคมวันนี้มีทั้งฝ่ายสนับสนุน ฝ่ายค้าน และฝ่ายที่เป็นกลางหรือฝ่ายกรรมการ โดยฝ่ายกรรมการต้องไม่ใช่ฝ่ายที่มานั่งดู แต่ต้องเป็นคนห้ามหรือผู้สลายความขัดแย้ง ต้องพูดให้สองฝ่ายสามัคคีกันตามพระบรมราโชวาท ที่ทรงรักทุกฝ่ายปรารถนาดีกับทุกฝ่าย และต้องการให้ทุกฝ่ายกลับเข้าที่คืนดีกัน เพราะถ้าไม่รู้รักสามัคคีประเทศก็จะอยู่ไม่ได้

“สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งนั้นต้องใช้พรหมวิหาร 4 โดยให้ทำตัวเหมือนน้ำ คือ

1. รวมตัวกันเป็นนิจไม่ว่าจะถูกผ่าออกอย่างไรในที่สุดกลับมารวมกันได้ดังเดิม โดยการรวมตัวกันนั้น ด้วยความรัก คือ เมตตา

2. ให้ความชุ่มเย็นแก่ทุกคน ดับร้อนผ่อนเย็น คือ กรุณา

3. ทำให้ซึมซาบดับร้อนผ่อนเย็นไม่ขัดแข้งขัดขากันดังเช่น มุทิตา และ

4. มีความยุติธรรม เป็นกลางเท่าเทียม ไม่เอียงซ้ายหรือขวา ถึงแม้พื้นจะเอียงแต่ระดับน้ำไม่เอียง รักษาความยุติธรรมอย่างเท่าเทียมกัน คือ อุเบกขา

ดังนั้นหากคนในสังคมมีพรหมวิหารธรรมนี้มั่นใจได้ว่าสังคมจะไม่แตกแยกแน่นอน” พระธรรมโกศาจารย์กล่าว