ค้นหา
เมนู
- หน้าหลัก
- หมวดหมู่
- ภัยพิบัติ (65)
- ธรรมชาติ (286)
- วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (172)
- สังคม (2814)
- วัฒนธรรม (3270)
- ความรู้พื้นฐานทางวัฒนธรรม (19)
- ชาติพันธุ์ (531)
- กะเหรี่ยง (79)
- จีนฮ่อ (1)
- ถิ่น (1)
- ไทดำ (1)
- ไทย (6)
- ไทยอง (1)
- ไทลื้อ (6)
- ไทหย่า (1)
- ไทใหญ่ (1)
- ปะหล่อง (ว้า) (2)
- ม้ง (แม้ว) (44)
- มูเซอ (ลาหู่) (46)
- เมี่ยน (เย้า) (50)
- มลาบรี (ผีตองเหลือง) (2)
- มอญ (Mon) (160)
- ลานแตน (1)
- ลาว (1)
- ลาวเทิง (2)
- ลีซู (47)
- ลัวะ (ละว้า) (3)
- สามต้าว (1)
- อาข่า (57)
- ชาติพันธุ์อื่นๆ (7)
- ประเพณี (780)
- ภูมิปัญญาไทย (1652)
- เครือข่ายทางวัฒนธรรม (204)
- วัฒนธรรมหลวง (17)
- เนื้อหาวัฒนธรรมรอจัดหมวด (0)
- ศิลปะและการบันเทิง (699)
- ศาสนาและจิตวิญญาณ (7090)
- เนื้อหารอจัดหมวด (26)
- ค้นหาชั้นสูง
- บริจาคเนื้อหา
- เกี่ยวกับโครงการ
ล็อกอิน
ชนเผ่ากะเหรี่ยง-โฮมสเตย์-ป่าละอูบน ธุรกิจบนสายสัมพันธ์"กะเหรี่ยง-กะหร่าง"
โฮมสเตย์-ป่าละอูบน ธุรกิจบนสายสัมพันธ์"กะเหรี่ยง-กะหร่าง"
คอลัมน์ สดจากประชาสังคม
วันที่ 01 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 ปีที่ 16 ฉบับที่ 5632
เจริญ อาจประดิษฐ์
"บ้านป่าละอูบน" ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ หมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลจากเมืองใหญ่ มีผู้อยู่อาศัยทั้งหมด 250 หลังคาเรือน อยู่รวมกัน 3 เชื้อสายด้วยกัน ได้แก่ กระเหรี่ยง กระหร่าง และไทย โดยส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม รับจ้าง และหาของป่าดำรงชีพ สภาพพื้นที่เป็นที่ราบเชิงเขาติดต่อกับสหภาพพม่า ในการเดินทางต้องไปตามถนนลาดยางจากตลาดหัวหิน ผ่านหนองพลับ ห้วยสัตว์ใหญ่ จนถึงหมู่บ้านรวมระยะทาง 69 กม.
หมู่บ้านแห่งนี้อุดมไปด้วยป่าไม้ สมุนไพรนานาชนิด และยังเป็นพื้นที่ต้นน้ำลำธาร มีแม่น้ำป่าไหลผ่านกลางหมู่บ้านตลอดปีพืชพันธุ์ธัญญาหารจึงอุดมสมบูรณ์ เพียงนำเมล็ดข้าวหยอดลงในดินที่เตรียมไว้ก็จะได้ข้าวที่เรียกกันว่า "ข้าวไร่" เก็บกินกันได้ทั้งหมู่บ้าน และไม่ต้องนำเข้าโรงสีข้าวให้เสียสตางค์ เพียงใช้สากหรือครกกระเดื่องตำก็จะได้ "ข้าวซ้อมมือ" มารับประทานกับอาหารจานเด็ดคู่กับผักกรูดที่หาได้ง่ายภายในหมู่บ้าน
"ความเป็นอยู่ของคนในหมู่บ้านจึงมีลักษณะที่เรียบง่าย มีการประกอบอาชีพตามแบบของชนเผ่าตนเอง และนอกจากนี้ประเพณี และวัฒนธรรมต่างๆ ทั้งชาวกระเหรี่ยง และกระหร่าง ยังคงมีการอนุรักษ์และปฏิบัติกันอย่างต่อเนื่อง"
นายเชาว์ ปลีดอก ผู้ใหญ่บ้านป่าละอูบน เปิดเผยว่า ในหมู่บ้านยังคงอนุรักษ์วัฒนธรรมชาวกระเหรี่ยง และชาวกระหร่างไว้เป็นอย่างดี ตั้งแต่การประกอบอาชีพ การนับถือผู้นำเผ่าหรือผู้นำหมู่บ้าน การแสดงตามประเพณี และการจัดงานวันสำคัญของชนเผ่า ทำให้มีผู้สนใจเดินทางมาสัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวไทยภูเขาทั้งสองเผ่าเป็นจำนวนมาก ในการประชุมชาวบ้านจึงได้ริเริ่มจัดทำที่พักให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาในลักษณะของ "โฮมสเตย์" โดยใช้พื้นที่สาธารณะกลางหมู่บ้านจำนวน 10 ไร่ สร้างเป็นที่พักหลังใหญ่ 2 ชั้น จำนวน 2 หลัง ปลูกแบบบ้านของชาวกระเหรี่ยงและชาวกระหร่าง โดยใช้ไม้สนทำเสาบ้าน ใช้ไม้ไผ่หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "ไม้นวล" ทำเป็นพื้นและฝาบ้าน หลังคาบ้านบางหลังใช้เป็นหญ้าคา นอกจากนี้ยังมีบ้านหลังเล็กจำนวน 3 หลัง เป็นบ้านไม้ไผ่ใช้ใบตะคร้อซึ่งเป็นต้นไม้ในป่านำมาทำเป็นหลังคากันแดดกันฝนตามแบบของชนเผ่าทั้งสอง และสำหรับผู้ที่ชอบอยู่แบบธรรมชาติกลางสนามหญ้าก็จะมีเต๊นท์ไว้บริการอีกหลายหลัง
นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเป็นหมู่คณะจะได้ชมการแสดงตามประเพณีของชาวกระเหรี่ยง และกระหร่างจำนวนหลายชุดด้วยกัน อาทิ การละเล่นพื้นบ้านชาวไทยภูเขา เล่าเรื่องราวความเป็นมาของบรรพชน ตลอดจนพิธีกรรมและความเชื่อต่างๆ หากใครสนใจเรียนรู้ก็จะมีการแปลภาษาที่ร้องเป็นภาษาไทย เพื่อสร้างความเข้าใจในบทเพลงจนเกิดความเพลิดเพลิน บางเพลงก็ขำขันแบบที่ไม่เคยได้ยินเรื่องราวมาก่อน บทเพลงส่วนใหญ่เขียนขึ้นมาจากวิถีชีวิตจริงจะมีสัตว์ป่า และนกอยู่ในบทเพลงด้วย ซึ่งถือเป็นบทเพลงเพื่อชีวิตของชาวกระเหรี่ยงและกระหร่าง หลังจากการแสดงจบลงบรรยากาศจะเงียบสงบ นักท่องเที่ยวจะได้ยินเสียงจักจั่น เสียงหรีด หริ่ง เร ไร จากธรรมชาติพาให้เพลิดเพลิน และในเวลากลางคืนหมู่บ้านก็จะมีชุดรักษาความสงบหมู่บ้าน(ชรบ.) พลัดเปลี่ยนกันเฝ้ายาม เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวตลอดทั้งคืน เมื่อถึงยามเช้าจะได้ยินเสียงหวานๆ ของไก่ป่าขันเจื้อยแจ้วให้ตื่นขึ้นมาชมความงามของสายหมอกที่ปกคลุมพื้นที่ทั่วทั้งหมู่บ้าน
"หมู่บ้านโฮมเสตย์ ทางเลือกใหม่ในการสัมผัสความงดงามของธรรมชาติควบคู่กับการศึกษาวัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตของสองชนเผ่าบนความแตกต่าง แต่ไม่แตกแยกชาติพันธุ์"
ที่มา : ข่าวสด ๑ พฤษภาคม ๒๕๔๙
หน้า 5
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อ้างอิงจาก : http://www.karencenter.com/