นานาสาระผ้าจกไท-ยวน (5) ผ้าจกไท-ยวน เสาไห้สระบุรี

วันที่เอกสารถูกสร้าง: 
13/08/2008
ที่มา: 
พิพิธภัณฑ์ผ้า มหาวิทยาลัยนเรศวร http://www.thaitextilemuseum.com

ผ้าจกไท-ยวน เสาไห้สระบุรี

ผ้าไท-ยวน เสาไห้โบราณ  แบ่งได้เป็น 5 ประเภท ตามการใช้งานคือ

    

1. ผ้าสไบ

ผู้ชายจะนิยมใช้ผ้าสไบไหมคล้องคอหรือพาดไหล่ เรียกกันในชื่อ ผ้าขมา (ผ้าขาวม้า) แต่จะมีขนาดแคบกว่าผ้าขาวม้า ฝ้ายที่ใช้พุ่งผ้าสไบจะมีสีต่างๆ ทำเป็นลายตารางทั้งผืนมีทั้งตาคู่และตาคี่ ชายทั้ง 2 เป็นลายทางยาวไม่มีตารางเหมือนตรงกลางผืนผ้า

2. ผ้าห่ม ผ้าห่มใช้สำหรับฤดูหนาว จะทอเป็น 2 แบบคือ   

1) ผ้าห่มขิด จะเป็นลายขิดที่เป็นลายนก ลายช้าง ลายม้า ลายรูปคน ลายมะลิเลื้อย ลายดอกตั้ง ที่ลวดลายเป็นแนวขวางที่บริเวณชายทั้ง 2 ด้าน ส่วนตรงกลางผ้าจะเป็นผ้าลายยก หรือคล้ายลายมุก ลายขิดที่เกิดขึ้นนั้นเป็นการทำลวดลายด้วยการเพิ่มเส้นด้ายพุ่งพิเศษเข้าไปทอติดต่อกันตลอดหน้ากว้างของผืนผ้า โดยใช้ไม้ค้ำหรือตะกอเก็บลายขึ้นมาเป็นพิเศษ

 
2) ผ้าห่มหลาบหรือผ้าง้าวหลาบ
จะเป็นผ้าลายรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนทั้งผืน ทางภาคอีสานเรียกว่า ลายลูกแก้วหรือผ้าเหยียบ

 

3. ผ้ามน

ผ้ามน หรือผ้าเช็ดหน้าสำหรับผู้ชาย บางครั้งผู้หญิงใช้เป็นผ้ามัดผม จะมีลักษณะเป็นผ้าสี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาดเท่าผ้าเช็ดหน้าผู้ชายในปัจจุบัน ตกแต่งด้วย ลายขิด ลายม้า ลายนก  ลายช้าง ลายมะลิเลื้อย มีชายครุยที่ขอบผ้าทั้งสี่ด้าน ผ้ามนส่วนใหญ่ ผู้ที่บวชนาคใช้คลุมหัวเวลาแห่นาคไปวัด เพื่อทำพิธีบวชพระ ซึ่งใช้เป็นที่กันความร้อนและเพื่อความสวยงาม หรือถ้าไม่ใช้คลุมหัวก็ใช้เป็นผ้าเช็ดหน้าผู้ชาย

4.ย่าม ย่ามที่พบในอำเภอเสาไห้ จะมีอยู่ 3 แบบคือ

1) ย่ามทำด้วยผ้าฝ้าย สีขาวมีแนวลายเส้น มีขนาดใหญ่ ผู้ชายใช้ใส่ของใช้สอยส่วนตัว เวลาไปทำงานในไร

2) ย่ามใส่หมากพลู เป็นย่ามของผู้หญิงมีขนาดเล็ก ตัวย่ามทำด้วยผ้าพื้น แต่งขอบปากและขอบสายย่ามด้วยลายขิดเป็นลายดอกแก้ว จะใช้สำหรับใส่หมากพลู  ของใช้เล็กๆ น้อยๆ ติดตัวไปทำงานในไร่ หรือไปวัดทำบุญ

3) ย่ามขิด เป็นย่ามขนาดเล็ก ตกแต่งลายที่ตัวย่ามและสายสะพาย เป็นลายขิดทั้งผืนทั้ง 2 ด้าน ผู้หญิงจะใส่หมากพลูไปในงานสำคัญต่างๆ (คล้ายเป็นกระเป๋าถือของผู้หญิงในยุคปัจจุบัน)

 

5. ผ้าซิ่น

ผ้าซิ่นของผู้หญิงไท-ยวน เสาไห้ มีอยู่ 4 แบบคือ

1) ซิ่นด้านดำ  เป็นตัวซิ่นสีดำ มีลายริ้วสีแดงบริเวณส่วนบนและล่างตัวซิ่น ตีนผ้าซึ่งเป็นสีดำ ส่วนหัวซิ่นต่อด้วยผ้าพื้นสีแดง เพื่อให้มีความยาวพอเหมาะกับผู้ใส่ เรียกหัวซิ่นนี้ว่าจองเอา

2) ซิ่นซาวเหนือหรือซิ่นสาวแลว เป็นผ้าซิ่นลายขวางบนตัวซิ่น ซึ่งในลายขวางแต่ละแนวจะมีลายอยู่ 3 เส้น ส่วนหัวซิ่นและตีนซิ่นเป็นผ้าผืน

  

3) ซิ่นไก เป็นผ้าซิ่นลายขวาง ซึ่งจะมีการทำลายมัดหมี่เล็กๆ  คล้ายเป็นไส้ลายบนลายขวาง ส่วนหัวซิ่นจะเป็นผ้าสีขาวและสีแดงเย็บต่อกัน ตีนซิ่นเป็นผ้าพื้นสีดำขอบแดง

4) ซิ่นมุก เป็นผ้าซิ่นที่มีการยกดอกเป็นลายเล็กๆ รูปแปดเหลี่ยม เป็นแนวขวางพาดบนตัวซิ่นส่วนตีนซิ่นจะต่อด้วยตีนจกซึ่งจะเป็นลายดอกแก้ว หรือลายหยักผสมลายนกคู่ หรือลายกาบบายศรี และจะปล่อยแนวผ้าพื้นยาวออกมาอีก 5-6 นิ้ว ผ้าซิ่นมุกต่อตีนจกนี้จะนิยมนุ่งไปในงานสำคัญต่างๆ

ต้นฉบับ :

 http://www.thaitextilemuseum.com/HOME/jok/jok1/jok2/jok3/jok4.html

 http://www.thaitextilemuseum.com/HOME/jok/jok1/jok2/jok3/jok3.html