วันที่เอกสารถูกสร้าง: 
15/08/2008
ที่มา: 
พิพิธภัณฑ์ผ้า มหาวิทยาลัยนเรศวร http://www.thaitextilemuseum.com

ลักษณะผ้าแพรวา

นาคหัวชุมผสมใบบุ่นอุ้มดาว ผ้าแพรวาสองสี ลวดลายที่ใช้ทอผ้าแพรวาผืนนี้เป็นลายอุ้มจันกิ่ง

  •  แพร   หมายถึง ผ้า
  •  วา          หมายถึง ความยาว
  • แพรวา      หมายถึง ผ้าที่มีความยาว
  • ลายผ้า      มีลวดลายสม่ำเสมอตลอดทั้งผืน ลายไม่เขย่ง
  • สีผ้า         สีสม่ำเสมอตลอดทั้งผืนไม่มีรอยด่าง
  • เส้นไหม     เป็นไหมแท้ทั้งเส้นพุ่งและเส้นยืน
  • พื้นผ้า       มีความละเอียด เนื้อแน่ สม่ำเสมอตลอดทั้งผืน

ลวดลาย

ลวดลายบนผ้าแพรวาได้รับการถ่ายทอดสืบต่อกันมา จึงทำให้เอกลักษณ์ในลวดลายยังคงงดงามอยู่ ไม่แปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา  การคิดลวดลายต่างๆขึ้นมานั้น ผู้คิดจะลองทำในผ้าฝ้ายสีขาวก่อน

จัดทำไว้เป็นแม่ลายเป็นผ้าต้นแบบรวบรวมทุกลายไว้ในผ้าผืนน้อย เรียกว่า “ผ้าแส่ว” ซึ่งแม่ลายมากมายใช้เวลาเป็นแรมเดือนกว่าจะรวบรวมเสร็จ หากช่างทอผู้ใดจะฝึกหัดทอผ้า ก็จะให้ดูลวดลายจากต้นแบบในผ้าแส่ว จะจัดเอาลายใดไว้ตรงส่วนไหนนั้น แล้วแต่ความชอบที่ช่างทอเห็นว่าสวย จะใช้สีอะไรก็แล้วแต่จะเห็นว่างาม แต่ความสวยงามของผ้าแพรวา มีเอกลักษณ์คือ ความไม่เหมือนกันของผ้าแต่ละผืน ซึ่งแล้วแต่ลายที่นำมารวมกันเอาไว้ แต่ละลวดลายจะต้องจกตามต้นแบบที่มีอยู่ในผ้าแส่ว ลวดลายต่างๆ คล้ายกับว่าใช้เส้นไหมสานขัดทีละเส้นจนแล้วเสร็จ

ผ้าผืนหนึ่งใช้เวลาเป็นแรมปี ฉะนั้นบ้านหนึ่งๆ มักจะมีแพรวาอยู่ผืนสองผืนเท่านั้น เพราะว่าทอลำบากและใช้เวลานานมากกว่าจะทอเสร็จในแต่ละผืนประเพณีทางวัฒนธรรมของสาวชาวภูไทจะต้องยึดถือและปฏิบัติตามบรรพบุรุษ จะต้องตัดเย็บผ้าทอ 3 อย่าง คือ เสื้อดำ ตำแพร ซิ่นไหม

ลวดลายบนผ้าแพรวา
ลายแพรวาแบ่งออกเป็น 2 ประเภท

ลายหลัก

  • นาคหัวซุมอุ้มหยุบตีนหมาผสมแบด ดาว ผักแว่น
  • พันมหา พันมหาน้อย พันมหาใหญ่
  • แบดอุ้มดาวผสมนาคหัวชุม
  • จันกิ่งอุ้มแบดกาบตัด
  • นาคหัวชุมอุ้มดาวผสมดอกตาบ้ง
  • กระบวนแอวกิ่ว ผสมใบบุ่นหว่าน
  • ใบบุ่นก้านก่องอุ้มดอกซ่าน(ชื่อในแต่ละบรรทัดเป็นชื่อของลายหลักในหนึ่งแถวของผ้าแพรวาออกเสียงตามสำเนียงของชาวภูไท)

เขาลายสำหรับทอสไบแพรวา

 

ผ้าแส่วของแต่ละบ้านจะมีเพียงผืนเดียวสืบทอดจากแม่ให้ลูกหรือสะสมลวดลายเอาเอง

ลายประกอบ ลายแถบ ลายคั่น ลายชายผ้า

ลายงูลอย 3 ไม้
ลายงูลอย 9 ไม้ ลายนี้ขาดหายไปไม่ได้อยู่ในผ้าแพรวา
ลายตาบ้ง

ต้นฉบับ : http://www.thaitextilemuseum.com/HOME/SAR/Phraewa/Phraewa1/phraewa1.html