ค้นหา
เมนู
- หน้าหลัก
- หมวดหมู่
- ภัยพิบัติ (65)
- ธรรมชาติ (286)
- วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (172)
- สังคม (2814)
- วัฒนธรรม (3270)
- ความรู้พื้นฐานทางวัฒนธรรม (19)
- ชาติพันธุ์ (531)
- ประเพณี (780)
- ภูมิปัญญาไทย (1652)
- เครือข่ายทางวัฒนธรรม (204)
- วัฒนธรรมหลวง (17)
- เนื้อหาวัฒนธรรมรอจัดหมวด (0)
- ศิลปะและการบันเทิง (699)
- ศาสนาและจิตวิญญาณ (7090)
- เนื้อหารอจัดหมวด (26)
- ค้นหาชั้นสูง
- บริจาคเนื้อหา
- เกี่ยวกับโครงการ
ล็อกอิน
นาฏดุริยการล้านนา สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ - สูตรการทำซึง
บทความนาฏดุริยการล้านนา วันอังคารที่ 11 มกราคม 2548 - สูตรการทำซึง
สูตรการทำซึง
การทำซึง เมื่อได้ไม้ที่มีความหนาเหมาะสมกับตัวซึงที่ต้องการแล้ว จะวัดขนาดความกว้างของกล่องเสียงให้มีความสัมพันธ์กับความยาวของคันซึง (วัดถึงคอซึง) ตามสูตร เพื่อให้ได้เสียงตามที่ต้องการ สูตรดังกล่าวมีอยู่ 3 สูตร คือ
1. สูตรโล่งเกิ่ง คือ วัดเอาเส้นผ่าศูนย์กลางของกล่องเสียงเพิ่มอีก 1 1/2 ส่วน ไปเป็นความยาวของคันซึง (วัดจากขอบกล่องเสียงถึงคอซึง) สมมุติว่า เส้นผ่าศูนย์กลางของกล่องเสียงมี 10 นิ้ว ความยาวของคันซึงจะมีความยาว 15 นิ้ว
สูตรนี้เสียงซึงจะดังกังวาน เมื่อเล่นในวงเสียงจะชัดเจน สูตรโล่งเกิ่งนี้นิยมทำซึงกลาง
2. สูตรสองโล่ง คือ วัดเอาเส้นผ่าศูนย์กลางของกล่องเสียงเพิ่มอีก 2 ส่วน ไปเป็นความยาวของคันซึง เช่น เส้นผ่าศูนย์กลางของกล่องเสียงมี 10 นิ้ว ความยาวของคอซึงจะยาว 20 นิ้ว
สูตรนี้เสียงซึงจะไพเราะมาก แต่ความดังจะอ่อนกว่าสูตรโล่งเกิ่ง สูตรสองโล่งจึงเหมาะสำหรับซึงที่ใช้บรรเลงเดี่ยว เท่านั้น
3. สูตรโล่งเกิ่งปลายสองฝ่ามือ คือ วัดเอาเส้นผ่าศูนย์กลางของกล่องเสียงเพิ่มอีก 1 1/2 ส่วน แล้ววัดต่อจากนั้นยาวอีกประมาณ 1 ฝ่ามือไปเป็นความยาวของคันซึง คือ ถ้าเส้นผ่าศูนย์กลางของกล่องเสียงมี 10 นิ้ว ความยาวของคอซึงจะยาว 15 นิ้ว กับอีก 1 ฝ่ามือ
สูตรนี้เสียงซึงจะดังพอดีและมีเสียงใสไพเราะพร้อมกันไปด้วย จึงเหมาะทั้งบรรเลงผสมวงและบรรเลงเดี่ยว
อย่างไรก็ตาม เสียงของซึงจะดังไพเราะหรือไม่นั้น ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น เนื้อไม้ ขนาด การตั้งเสียง ความได้สัดส่วนของตัวซึง (ซึ่งบางครั้งไม่ได้ตายตัวตามสูตร) เป็นต้น
โดย สนั่น ธรรมธิ สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
(ภาพลายเส้นโดย ไกรวุฒิ วังชัย)
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ต้นฉบับ : http://art-culture.chiangmai.ac.th/academic/natha/2548/01/11/