ค้นหา
เมนู
- หน้าหลัก
- หมวดหมู่
- ภัยพิบัติ (65)
- ธรรมชาติ (286)
- วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (172)
- สังคม (2814)
- วัฒนธรรม (3270)
- ความรู้พื้นฐานทางวัฒนธรรม (19)
- ชาติพันธุ์ (531)
- ประเพณี (780)
- ภูมิปัญญาไทย (1652)
- เครือข่ายทางวัฒนธรรม (204)
- วัฒนธรรมหลวง (17)
- เนื้อหาวัฒนธรรมรอจัดหมวด (0)
- ศิลปะและการบันเทิง (699)
- ศาสนาและจิตวิญญาณ (7090)
- เนื้อหารอจัดหมวด (26)
- ค้นหาชั้นสูง
- บริจาคเนื้อหา
- เกี่ยวกับโครงการ
ล็อกอิน
นาฏดุริยการล้านนา สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ - บทบาทและลีลาของซึง
บทความ นาฏดุริยการล้านนา วันอังคารที่ 25 มกราคม 2548 - ซึง
บทบาทและลีลาของซึง ซึงในฐานะเป็นเครื่องดนตรีสำหรับประเทืองอารมณ์ สามารถนำมาบรรเลงได้ทุกโอกาส ซึ่งอาจบรรเลงเดี่ยว ๆ หรือนำไปบรรเลงร่วมกับเครื่องดนตรีชนิดอื่น เฉพาะการบรรเลงเดี่ยวนั้นค่อนข้างจะมีอิสระ เพราะเสียงเพลงที่ออกมา จะเป็นไปตามความนึกคิดของผู้บรรเลงเอง แต่คราใดที่ต้องบรรเลงร่วม หรือผสมวงกับเครื่องดนตรีชนิดอื่น จำต้องกำหนดบทบาทและลีลา เพื่อมิให้ทางเพลงไปซ้อนทับกันมากจนเกินไป ดังนั้นคีตกรชั้นครูจึงพยายามแยกแยะ และกำหนดทางเพลงให้ ซึงแต่ละขนาดบรรเลงในลีลาที่แตกต่างกัน
ในที่นี้จะกล่าวถึงเฉพาะวงดนตรีที่นิยมใช้ ซึงบรรเลงประกอบ ซึ่งได้แก่ วงสะล้อ – ซึง วงปี่ชุม (อ่าน – ปี่จุม) และวงซอน่าน ดังนี้ วงสะล้อ-ซึง- ซึงใหญ่ มีบทบาทคล้ายผู้สูงอายุ เสียงทุ้มต่ำ ลีลาในการบรรเลงจึงมักสอดรับกับซึงตัวอื่นๆ เสียส่วนใหญ่ หน้าที่ของซึงใหญ่จึงคล้ายกีตาร์เบสของดนตรีสากล วงปี่ชุม ในวงปี่ชุม ซึงที่ใช้ร่วมบรรเลง นิยมใช้ซึงกลาง ตั้งเสียงลูกสี่หรือคู่สี่ บทบาทและลีลาเน้นการคุมจังหวะ
วงซอน่าน
ในล้านนายังมีวงซอของเมืองน่านอีกวงหนึ่งที่ใช้ซึงร่วมบรรเลง แต่เรียกว่า “พิณ” (อ่าน“ปิน”) ไม่เรียก “ซึง” เหมือนที่อื่น ซึงที่ใช้บรรเลงเป็นซึงกลางตั้งเสียงลูกสี่ หรือคู่สี่บรรเลงกับสะล้อ (มีนมบังคับเสียง) ประกอบการขับซอน่าน ซึ่งเป็นที่นิยมกันในจังหวัดน่านและแพร่ บทบาทและลีลา เน้นการคุมจังหวะขณะเดียวกันก็มีการสอดลูกเล่นรับกับสะล้อด้วย
ซึงสำหรับเด็กเล่น นอกจากซึงที่ได้กล่าวมาแต่ต้น ยังมีซึงอีกประเภทหนึ่งซึ่งต้องกล่าวถึงด้วย แม้เป็นเพียงของเด็กเล่น แต่ก็พบว่ามีการทำให้เด็กเล่นโดยทั่วไป คือซึงที่ทำจากปล้องไม้ไผ่มีสายที่ได้จากเส้นผิวไม้ในตัว การบรรเลงส่วนใหญ่จะใช้ไม้เล็ก ๆ ตีให้เกิดเสียงดัง วิธีการทำคือตัดไม้ไผ่ลำโตๆ มา 1 ปล้องให้มีข้อติดทั้ง 2 ด้าน เฉือนผิวไม้ไผ่ด้านหนึ่งให้เรียบ กว้าง 3 - 4 เซนติเมตร ตรงขอบทั้ง 2 ข้างของรูนั้น เจาะเนื้อไม้หรือผิวไม้เป็นเส้นยาวๆ แล้วใช้ชิ้นไม้ทำเป็นหมอนรองให้สูงขึ้นจากพื้นผิวเล็กน้อย เพื่อทำเป็นสายซึง ในการเล่นซึงของเด็ก จะใช้ไม้ขนาดประมาณแท่งดินสอตีให้เกิดเสียงและมีจังหวะต่างๆ ตามต้องการ
ผู้เขียน : สนั่น ธรรมธิ
สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ต้นฉบับ : http://art-culture.chiangmai.ac.th/academic/natha/2548/01/25/