วันที่เอกสารถูกสร้าง: 
27/10/2008
ที่มา: 
เว็บไซต์ล้านนาคดี http://lanna.mju.ac.th/ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ "ทุกภาพ ทุกตัวอักษร มอบเป็นวิทยาทานแด่ทุกท่าน"

ปกหลก
 
ปกหลก ปกกะหลก หรือเกราะราง ใช้แขวนคอวัว คอควาย เพื่อบอกเสียงสัญาณของสัตว์เลี้ยงให้รู้ว่าไปหากินอยู่ในทิศทางใด การเรียกชื่อว่าปกหลก เพราะเรียกตามเสียงที่ได้ยิน “ ปก – หลก ” ส่วนภาคอีสานได้ยินเสียง “ โปง – โปง ” ซึ่งเรียกว่า ไม้โปง หรือขอ

การเลี้ยงวัว ควายสมัยก่อนจะปล่อยไปตามธรรมชาติ พอเสร็จการทำนาทำไร่ เจ้าของวัวควายจะผูกปกหลก เกราะกระดิ่ง แขวนคอสัตว์เลี้ยงของตนปล่อยออกไปหากินตามท้องนา ท้องไร่ ในป่า กันเป็นฝูง ไม่มีพวกขโมยลักวัวลักควาย สังคมของชาวพื้นบ้านอยู่ด้วยความสงบเอื้อเฟื้อแบ่งปันซึ่งกันและกัน พอถึงฤดูใกล้ทำนาชาวบ้านก็จะออตามวัวควายของตน โดยฟังเสียงสัญญาณจากปกหลกส่วนหนึ่ง หรือตามหาในทำเลที่สัตว์เคยหากินอยู่เสมอ ระยะหลังเมื่อเศรษฐกิจฝืดเคืองขึ้น คนในสังคมห่างไกลศาสนา มีการลักวัวลักควายกันมาก ชาวบ้านจึงต้องกั้นคอกไว้ใกล้บ้าน ตอนเช้าจะต้อนออกไปหากิน ตอนเย็นก็ต้อนกลับเข้าคอกตามเดิม ต้องแขวนปกหลกห้อยไว้ ส่วนใหญ่จะผูกแขวนคอวัวหรือควายตัวเมีย เพราะชอบหากินไกลๆ ตัวผู้ทำหน้าที่เดินตามคุมฝูงไปด้วย

วิธีทำปกหลก ต้องเริ่มต้นด้วยการหาไม้ไผ่ป่าหรือไม้สีสุก ลำโตแก่จัด เนื้อแน่นและหนา มีขนาดความยาวหนึ่งป้อง ตัดเหลือข้อหัวท้าย ปอกเอาผิวไม้ไผ่ออก คว้านกระบอกด้านหนึ่งเป็นรางยาว ใช้ไม้ตีลองเสียงอยู่เสมอ หากเสียดังไม่พอก็จะคว้านรูกระบอกขยายขึ้นเป็นลำดับ การลองเสียงปกหลก ชาวบ้านมักใช้ปล้องไม้ไผ่แช่น้ำให้เปียกแล้วจึงตีลองเสียง เพราะสภาพวัวควายต้องลงน้ำ ปกหลกเปียกอยู่เสมอ บางทีใช้วิธีสินหรือตัดไม้ไผ่ให้สั้นเข้า เพื่อให้เสียงดังขึ้น วิธีการลองเสียงปกหลกเช่นนี้ ชาวบ้านเรียกว่า “ การสินน้ำ ” ทำลูกปกหลกหรือลูกเกราะไว้แกว่งตีภายในวงกระบอก ๑ ลูก ใช้เชือกร้อยรูและมาอ้อม รัดคอวัวควาย ตอนกลางคืนเจ้าของมักใช้เศษใบหญ้าอัดไว้ในคอปกหลก เพื่อไม่ให้เกิดเสียงดังรบกวนเวลาคนนอนพักผ่อน เพราะคอกจะสร้างไว้ใกล้บ้าน ด้วยเกรงว่าขโมยจะมาลักนั่นเอง

ปกหลก ที่ทำด้วยไม้เนื้อแข็งนำมาจะเป็นรางจึงเรียกว่า เกราะราง สำหรับผูกคอช้างจะทำปกหลกขนาดใหญ่กว่าปกหลกผูกคอวัว คอควาย


ผู้ให้ข้อมูล

๑ . ตั้น หมีคง , นาย อายุ ๖๔ ปี บ้านเลขที่ ๑๘๒ หมู่ ๓ ต . บ้านหนองกระท้าว อ . นครไทย

จ . พิษณุโลก

๒ . ถนอม อินทร์พงษ์ , นาย อายุ ๖๗ บ้านเลขที่ ๗๓ หมู่๖ ต . พรานกระต่าย อ . พรานกระต่าย

จ . กำแพงเพชร

๓ . ฟื้น เพ็ชรโต , นาย อายุ ๖๘ ปี บ้านเลขที่ ๑๗ หมู่ ๒ ต . ดงตะขบ อ . ตะพานหิน จ . พิจิตร

๔ . เสาร์ นิลขาว . นาย อายุ ๗๕ ปี บ้านเลขที่ ๑๗ หมู่ ๒ ต . ดงตะขบ อ . ตะพานหิน จ . พิจิตร

๕ . หอม ติณมาส . นาย อายุ ๗๐ ปี บ้านเลขที่ ๗๑ หมู่ ๓ ต . วัดโบสถ์ อ . วัดโบสถ์ จ . พิษณุโลก