ค้นหา
เมนู
- หน้าหลัก
- หมวดหมู่
- ภัยพิบัติ (65)
- ธรรมชาติ (286)
- วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (172)
- สังคม (2814)
- วัฒนธรรม (3270)
- ความรู้พื้นฐานทางวัฒนธรรม (19)
- ชาติพันธุ์ (531)
- ประเพณี (780)
- ภูมิปัญญาไทย (1652)
- การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ (11)
- การแต่งกาย (25)
- การรักษาโรค (67)
- การละเล่นพื้นบ้านและนาฏศิลป์ (381)
- การศึกษา (2)
- งานช่างฝีมือพื้นบ้าน (385)
- ผ้าทอ (300)
- งานหล่อ (0)
- งานแกะสลัก (11)
- งานปั้น เครื่องปั้นดินเผา และเซรามิก (12)
- ภาพเขียน (1)
- เครื่องถม (0)
- เครื่องจักรสาน (36)
- เครื่องทอง (1)
- เครื่องเงิน (2)
- เครื่องกระดาษ (2)
- เครื่องเขิน (2)
- เครื่องไม้ (7)
- เครื่องรัก (0)
- เครื่องโลหะ (6)
- เครื่องหนัง (0)
- อัญมณีและเครื่องประดับ (0)
- งานช่างฝีมืออื่นๆ (4)
- ที่อยู่อาศัย (99)
- ภาษาและวรรณกรรม (290)
- ศิลปะการป้องกันตัว (8)
- อาชีพและวิธีการหากิน (27)
- อุปกรณ์หากินและของใช้ (154)
- อาหาร (203)
- เครือข่ายทางวัฒนธรรม (204)
- วัฒนธรรมหลวง (17)
- เนื้อหาวัฒนธรรมรอจัดหมวด (0)
- ศิลปะและการบันเทิง (699)
- ศาสนาและจิตวิญญาณ (7090)
- เนื้อหารอจัดหมวด (26)
- ค้นหาชั้นสูง
- บริจาคเนื้อหา
- เกี่ยวกับโครงการ
ล็อกอิน
เครื่องมือของใช้ล้านนา - อีจู้
อีจู้
อีจู้ เป็นเครื่องดักปลาไหลชนิดหนึ่ง สานด้วยไม้ไผ่ มีงาแซงอยู่ริมก้นใส่เหยื่อไว้ในกะพล้อ บางแห่งเรียกว่าอีจู้ว่า กระจู้ หรือจู้
อีจู้ มีลักษณะกลมป่องส่วนก้น แล้วเรียวที่ส่วนบน คล้ายคนโทใส่น้ำบ่างชนิด หรือคล้ายรูปหม้อคอสูง ขนาดของอีจู้โดยทั่วไปวัดตามเส้นผ่าศูนย์กลาง ส่วนก้นมีความยาวตั้งแต่ ๒๐ - ๔๐ เซนติเมตร เมื่อวางตั้งมีความสูงตั้งแต่ ๕๐ เซนติเมตร จน สูง ๑ เมตร การสานอีจู้ใช้ตอกไม้ไผ่เหลาบาง ๆ เริ่มสานที่ก้นเป็นลายขัดสี่เหลี่ยมเป็นตาห่าง ๆ แต่ต้องไม่ให้ปลาไหลลอดออกไปได้ แล้วสานในแนวตั้งขึ้นมาเป็นลายขัดทึบ สานปลายปากอีจู้เรียวแคบลงทีละน้อย ๆ ส่วนริมปลายปากจะบานออกเล็กน้อย เพื่อวางที่ปิดส่วนใหญ่ใช้กะลามะพร้าว หรือเศษฟางเศษหญ้าจุกปากให้แน่น ริมก้นอีจู้ด้านหนึ่งใดจะสานเป็นช่องวงกลมไว้ เพื่อใส่งาแซมให้ปลาไหลเข้า โดยทั่วไปแล้วอีจู้แต่ละอันจะมีงาแซงอยู่ ๑ ช่องเท่านั้น ภายในสานไส้อีจู้จะทำด้วยไม้ไผ่ลายขัดห้างๆทำเป็นกรวยใส่เหยื่อล่อปลาไหล บางทีเรียกว่า “ กะพล้อ ” หรือรอง สามารถดึงเข้าดึงออกได้ เหยื่อที่ใส่ให้ปลาไหลเข้าไปกิน มักใช้เนื้อหอยโข่งนา ปูตายทุบให้แหลกหรือเนื้อปลาสับ
การดักปลาไหลจะดักในน้ำนิ่งตามริมหนอง คลอง บึง หรือตามแปลงนา ความลึกของน้ำไม่มากนัก ต้องให้ส่วนปลายปากอีจู้โผล่พ้นน้ำเพราะปาลไหลจะได้ขึ้นมาไม่ได้ ใช้ใบหญ้าคลุมอีจู้แต่งช่องทางให้ปลาไหลเข้าไปทางงาแซงได้สะดวก ช่องงาแซงอยู่ในระดับพื้นดินใต้น้ำพอดี ปลาไหลซึ่งชองอาศัยอยู่ในโคลนเลน เมื่อได้กลิ่นเหยื่อจะหาทางเข้าไปกิน จนกระทั่งเข้าช่องงาแซงนั้น แต่ก็ไม่สามารถกินเหยื่อได้เพราะใส่ไว้ในกะพล้ออีชั้นหนึ่ง ทำให้เหยื่อไม่หมด ปลาไหลตัวอื่น ๆ จะเข้าไปอีก การกู้อีจู้อาจกู้วันละครั้ง หรือดักไว้หลาย ๆ วันก่อนจึงมากู้ก็ได้
ผู้ให้ข้อมูล
๑ . บุญธรรม ขำปลอด , นาย อายุ ๗๔ ปี บ้านเลขที่ ๒๓๓ / ๒๒ ถ . ทิพย์เสนา อ . เมือง จ . พิษณุโลก
๒ . พริ้ง บำรุงพงศ์ , นาง อายุ ๘๒ ปี บ้านเลขที่ ๑๒๓ ต . วัดจันทร์ อ . เมือง จ . พิษณุโลก
๓ . ไว รอดเคราะห์ , นาง อายุ ๖๓ ปีบ้านเลขที่ ๑๑๐ / ๑๔ ต . ห้วยถั่วเหนือ อ . หนองบัว จ . นครสวรรค์
๔ . ไสว อ่ำปลี , นาย อายุ ๖๗ ปี บ้านเลขที่ ๒๑ หมู่ ๕ ต . บ้านกล้วย อ . เมือง จ . สุโขทัย
๕ . อู๊ต ศรีสวัสดิ์มงคล , นาย อายุ ๖๐ปี บ้านเลขที่ ๑๒๐ / ๑ หมู่ ๗ ต . วังนกแอ่น อ . วังทองจ . พิษณุโลก