ค้นหา
เมนู
- หน้าหลัก
- หมวดหมู่
- ภัยพิบัติ (65)
- ธรรมชาติ (286)
- วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (172)
- สังคม (2814)
- วัฒนธรรม (3270)
- ความรู้พื้นฐานทางวัฒนธรรม (19)
- ชาติพันธุ์ (531)
- ประเพณี (780)
- ภูมิปัญญาไทย (1652)
- เครือข่ายทางวัฒนธรรม (204)
- วัฒนธรรมหลวง (17)
- เนื้อหาวัฒนธรรมรอจัดหมวด (0)
- ศิลปะและการบันเทิง (699)
- ศาสนาและจิตวิญญาณ (7090)
- เนื้อหารอจัดหมวด (26)
- ค้นหาชั้นสูง
- บริจาคเนื้อหา
- เกี่ยวกับโครงการ
ล็อกอิน
นาฏดุริยการล้านนา สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ - ปี่ชุม (2)
บทความ นาฏดุริยการล้านนา วันอังคารที่ 20 กันยายน 2548 - ปี่ชุม (๒)
ปี่ชุม (๒)
การทำปี่ชุม (อ่าน – ปี่จุม) มีรายละเอียดเพิ่มเติมจากอังคารที่แล้ว ทั้งการปรับเสียงและการเจาะรูให้ได้ขนาดตามสูตรที่ต้องสัมพันธ์กัน
เสียงเพี้ยน
ในกรณีที่เสียงปี่เพี้ยนไม่ได้ระดับ จะเกิดความผิดปกติของตำแหน่งของรู หรือ ลิ้นปี่
๑. เกิดจากลิ้น
๑.๑ ถ้าเสียงปี่ต่ำเกินไป เรียกว่า “เสียงหนัก” ให้ใช้มีดขูดที่โคนของลิ้นปี่
๑.๒ ถ้าเสียงปี่สูงเกินไป เรียกว่า “เสียงเบา” ให้ใช้มีดขูดที่ปลายของลิ้นปี่ หรือจำง่ายๆ คือ “เสียงหนักขูดเก๊า (โคน) เสียงเบาขูดปล๋าย”
๒. เกิดจากรู กรณีนี้รูอาจจะไม่ได้ระดับเสียงอาจจะสูงหรือต่ำเกินไป
๒.๑ ถ้าเสียงเพี้ยนไปทางสูง ให้ใช้ปูน (ที่ใช้เคี้ยวกับหมาก) หรือขี้ครั่งถมหรืออุดด้านบนของรูปี่ จนเสียงปี่ได้ระดับดี
๒.๒ ถ้าเสียงเพี้ยนไปทางต่ำ ใช้ปูนหรือขี้ครั่งอุดด้านล่างของรูปี่แล้วใช้เหล็กแหลมเผาไฟเจาะบากขึ้น ด้านบน จนเสียงปี่ได้ระดับตามที่ต้องการ เมื่อปรับแต่งรู และลิ้นของปี่ได้สมบูรณ์แบบแล้ว ก็อาจจะตัดส่วนปลายของปี่ที่เผื่อไว้นั้นทิ้งไป
- การเจาะรูปี่
เมื่อทำปี่ก้อยได้แล้ว ช่างก็จะใช้ปี่ก้อยเป็นมาตรฐาน อย่างเช่น ในการเจาะรูปี่เล็กนั้น จะนำไม้ไผ่ที่มีขนาดเล็กถัดลงมาจากปี่ก้อยมาเทียบเข้ากับปี่เพื่อวัดขนาด แล้วเจาะรูโดยวัดเทียบรูสุดท้ายของปี่เล็กให้ตรงกับตำแหน่งรูที่สี่ของปี่ก้อย ในกรณีที่มิได้ใช้ไม้ไผ่ลำเดียวกันอาจจะวัดตรงกับตำแหน่งรูที่สามก็ได้ เพื่อให้เสียงได้ระดับกัน
การเจาะรูปี่ทำปี่กลางและปี่แม่ก็ใช้วิธีวัดเทียบกับปี่ก้อยเช่นเดียวกับปี่เล็ก โดยรูแรกของปี่กลางจะตรงกับตำแหน่งรูที่สี่ของปี่ก้อย และรูแรกของปี่แม่จะตรงกับรูที่เจ็ดของปี่ก้อย
- เพลงที่นิยมใช้ปี่ชุมบรรเลง
ทำนองเพลงที่วงปี่ชุมบรรเลงเพื่อประกอบการขับซอมี ๘ ทำนองคือ
๑. ตั้งเชียงใหม่
๒. ชาวปุ หรือ จะปุ
๓. ละม้าย
๔. เงี้ยว
๕. อื่อ
๖. พระลอ (ล่องน่าน)
๗. พม่า
๘. ซอน่าน
ทำนองเพลงเหล่านี้ เป็นทำนองที่ใช้ชุดปี่เป่าร่วมกันเพื่อประกอบการขับซอ และใช้บรรเลงเป็นหลัก ส่วนทำนองเพลงอื่นๆ ผู้เล่นจะนำมาบรรเลงก็ย่อมได้
- การเป่า
ในการเป่าปี่แบบล้านนานั้น ผู้เป่าจะต้องอมส่วนที่มีลิ้นทั้งหมด หันส่วนปลายไปทางซ้ายของผู้เป่า ใช้ลิ้นแตะที่ลิ้นของปี่เพื่อบังคับเสียงและผู้เป่าต้องระบายลมได้ คือเป่าอย่างต่อเนื่องไม่มีการหยุดพักหายใจหรือหยุดน้อยที่สุด
- การประสมวง
การบรรเลงของวงปี่ชุม ส่วนใหญ่จะบรรเลงเพื่อประกอบการขับซอของล้านนา ซึ่งการประสมวงดังกล่าวมี ๓ ลักษณะ คือ
ปี่ชุมสาม ใช้ปี่ ๓ เลา คือ ปี่แม่ ปี่กลาง และปี่ก้อย
ปี่ชุมสี่ ใช้ปี่ ๔ เลา คือ ปี่แม่ ปี่กลาง ปี่ก้อย และปี่เล็ก
ปี่ชุมห้า ใช้ปี่ ๕ เลา คือ ปี่แม่ ปี่กลาง (๒ เลา) ปี่ก้อย และปี่เล็ก
ต่อมาไม่นิยมใช้ปี่ชุมห้า เพราะมีปี่กลาง ๒ เลา จึงต้องเอาปี่กลางออกไปเลาหนึ่ง คงเหลือปี่ ๔ เลา เรียกว่า ปี่ชุมสี่ และภายหลังได้ตัดปี่แม่ออกเพราะเห็นว่าไม่มีความจำเป็น จึงเหลือปี่เพียง ๓ เลากลายเป็น ปี่ชุมสาม และได้เพิ่มซึงซึ่งเป็นเครื่องดีดเข้ามาอีกตัวหนึ่ง นัยว่าซึงให้จังหวะกระชับขึ้นสำหรับซึงที่ใช้บรรเลงร่วมกับปี่ชุมนิยมใช้ซึงกลาง ปัจจุบันวงปี่ชุมที่นิยมบรรเลงนั้น เป็นวงปี่ชุมสาม ซึ่งประกอบด้วยเครื่องดนตรีดังนี้
๑. ปี่กลาง
๒. ปี่ก้อย
๓. ปี่เล็ก
๔. ซึงกลาง
- ตำแหน่งการประสมวง
ในการใช้ปี่ชุมและซึงกลางบรรเลงประกอบการขับซอนั้น จะมีการวางตำแหน่งไว้บน “ผาม” (ร้านชั่วคราวมีหลังคา สำหรับการแสดงขับซอ) ดังนี้
การบรรเลงของวงปี่ชุมโดยเฉพาะการบรรเลงประกอบการขับซอ ผู้เล่นดนตรีและผู้ขับซอทุกคนจะต้องอยู่ในตำแหน่งที่กำหนดไว้เสมอ เพราะทั้งช่างปี่และช่างซอต้องฟังเสียงซึ่งกันและกัน เครื่องดนตรีต้องสัมพันธ์กับคนขับซอด้วย ในตำแหน่งที่กำหนดไว้นั้น จะเห็นได้ว่าปี่ก้อย ซึ่งเป็นปี่นำวง และซึงเป็นตัวให้จังหวะต้องอยู่ใกล้ช่างซอ ส่วนปี่แม่และปี่กลางที่มีเสียงทุ้มต่ำต้องอยู่ระหว่างปี่เล็ก ซึ่งมีเสียงแหลมเล็กและมีลูกเล่นที่สัมพันธ์กับเสียงขับของช่างซอ
สนั่น ธรรมธิ สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
(ภาพประกอบโดยพิชัย แสงบุญ และเสาวณีย์ คำวงค์)
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ต้นฉบับ : http://art-culture.chiangmai.ac.th/academic/natha/2548/09/20/