ค้นหา
เมนู
- หน้าหลัก
- หมวดหมู่
- ภัยพิบัติ (65)
- ธรรมชาติ (286)
- วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (172)
- สังคม (2814)
- วัฒนธรรม (3270)
- ความรู้พื้นฐานทางวัฒนธรรม (19)
- ชาติพันธุ์ (531)
- ประเพณี (780)
- ภูมิปัญญาไทย (1652)
- เครือข่ายทางวัฒนธรรม (204)
- วัฒนธรรมหลวง (17)
- เนื้อหาวัฒนธรรมรอจัดหมวด (0)
- ศิลปะและการบันเทิง (699)
- ศาสนาและจิตวิญญาณ (7090)
- เนื้อหารอจัดหมวด (26)
- ค้นหาชั้นสูง
- บริจาคเนื้อหา
- เกี่ยวกับโครงการ
ล็อกอิน
นาฏดุริยการล้านนา - เพลง (2)
บทความ นาฏดุริยการล้านนา วันอังคารที่ 18 ตุลาคม 2548 - เพลง (2)
เพลง (2)
ระบำหรือทำนอง ที่ใช้ประกอบการขับซอยังมีอีก สำหรับการดำเนินเรื่องนอกจากจะใช้ทำนอง “ละม้าย” แล้ว ช่างซอสามารถเปลี่ยนบรรยากาศไปเป็นทำนองอื่น ๆ ได้แก่ พม่า อื่อ ล่องน่าน เงี้ยว โดยแต่ละทำนองมีเกร็ดที่น่าสนใจดังนี้
- ทำนองพม่า
เป็นทำนองที่ใช้บรรเลงประกอบการขับซอ ชื่อทำนองบางแห่งเรียกว่า ซอเจ้าสุวัตร หรือ ซอนางบัวคำ สาเหตุเพราะท้าวสุนทรพจนกิจ (บุญมา สุคันธศีล) กวีในพระราชสำนักพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ได้แต่งบทซอจากนิทานชาดกเรื่อง “เจ้าสุวัตรนางบัวคำ” โดยใช้ทำนองนี้ นอกจากนี้ยังพบว่ามีการใช้ทำนองหม่าไปประกอบการขับซอเล่น ๆ ที่เรียก “ซอว้อง” คือบทสั้น ๆ ใช้คำซอกลับไปกลับมาเช่นบทที่ว่า
หมาหางกิด ไต่คันนาด้อมด้อม
หมาหางก้อม ไต่คันนาดิดดิด
- ทำนองอื่อ
เป็นทำนองโบราณ ใช้ประกอบการขับซอ มีผู้รู้บางท่านสันนิษฐานว่ามีวิวัฒนาการมาจากเพลงอื่อละอ่อน (เพลงกล่อมเด็ก) นิยมใช้ประกอบการขับซอในเนื้อหาพรรณทั่วไป ตลอดขบขับและอวยชัยให้พร สำหรับชื่อทำนองบางท้องถิ่นเรียกว่า “ซอดาววี” เพราะมีผู้แต่งบทซอจากนิทานชาดกเรื่อง “ดาววีไก่หน้อย” โดยใช้ทำนองดังกล่าว
- ทำนองล่องน่าน
เป็นทำนองซอที่นิยมใช้ในบทซอพรรณนาธรรมชาติ ป่าเขาสำเนาไพร ทำนองนี้กล่าวกันว่ามาจากเมืองน่าน อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีหลักฐานใด ๆ ยืนยันคำกล่าวนี้ นอกจากชื่อระบำคือ “ล่องน่าน” แล้ว ในครั้งเมื่อพระราชชายาเจ้าดารารัศมีโปรดให้ท้าวสุนทรพจนกิจแต่งบทซอเรื่อง พระลอ ได้ใช้ทำนองนี้พรรณาตอนที่นางรื่นนางโรยเดินทางในป่า จึงนิยมเรียกชื่อทำนองนี้ว่า “พระลอ” หรือ “พระลอล่องน่าน” ต่อมาเมื่อพระราชชายาฯ โปรดให้ท้าวสุนทรพจนกิจ แต่งบทซอเรื่อง “น้อยไชยา” ขึ้นอีก ท้าวสุนทรฯได้ใช้ทำนองนี้แต่งบทซอตอนน้อยไชยานัดพบกับแว่นแก้วที่ห้วยแก้ว และเพื่อให้สอดคล้องกับการฟ้อนในฉากนี้ จึงมีนักดนตรีฝีมือดีแต่งสร้อยเพลง (Introduction) ก่อนการขับซอทำนองนี้จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “น้อยไชยา”
- ทำนองเงี้ยว
เป็นทำนองที่ใช้ประกอบในการขับซออีกทำนองหนึ่ง นิยมใช้ในเนื้อหาหรือบทที่เศร้าสลด ปัดเคราะห์ อวยชัยให้พร และขับซอลาเจ้าภาพ
- ทำนองเงี้ยวลา
เป็นทำนองซอคล้ายทำนองเงี้ยว ท่วงทำนองแบ่งเป็นสองท่อน ปัจจุบันไม่เป็นที่นิยมแล้ว
- ทำนองเสเลเมา
เป็นทำนองซอที่ตัดตอนมาจากทำนองเงี้ยวลา กล่าวคือตัดตอนเอาท่อนแรกมาเท่านั้น และได้ชื่อว่า “เสเลเมา” เพราะคำร้องมักขึ้นต้นด้วยคำว่า เสเลเมา เสมอ
- ทำนองซอน่าน
เป็นทำนองสำหรับประกอบการขับซอ โดยเฉพาะการขับซอแบบเมืองน่าน ช่างซอส่วนใหญ่ใช้ขับซอดำเนินเรื่อง
- ทำนองลับแลง
เป็นทำนองสำหรับประกอบการขับซอแบบเมืองน่านเช่นกัน จากการให้สัมภาษณ์ของพ่อครู ไชยลังกา เครือเสน (ถึงแก่กรรม) อดีตครูซออาวุโสของจังหวัดน่านได้ความว่า ท่านเองเป็นผู้นำเอาทำนองนี้มาจากอำเภอลับแล (แต่เดิมเรียก “ลับแลง”) จังหวัดอุตรดิตถ์ แล้วคิดเนื้อใส่ทำนองถ่ายทอดให้ลูกศิษย์
สำหรับช่างซอโดยเฉพาะช่างซอในเชียงใหม่ เรียกทำนองนี้ว่า “ล่องน่าน” ทั้งนี้อาจเห็นว่ามาจากเมืองน่าน ระบำหรือทำนองลับแลง ช่างซอนิยมใช้ประกอบบทซอที่มีบรรยากาศเศร้าสร้อย และมักใช้ในการ และมักใช้ในการขับซออำลาเจ้าภาพ
- ทำนองซอปั่นฝ้าย
เป็นทำนองประกอบการขับซอทำนองหนึ่งของเมืองน่าน ผู้แต่งคือ พ่อครูไชยลังกา เครือเสน โดยปรับปรุงจากเพลงรำวงโบราณชื่อเพลง “ชักใบ” เหตุที่เรียกทำนอง “ปั่นฝ้าย” เพราะเดิมที่มีการแต่งเนื้อร้องที่กล่าวถึงการทำไร่ฝ้าย ตั้งแต่แรกเริ่มจนกระทั่งถึงปั่นเป็นเส้นฝ้าย
เรื่องราวของเพลงเป็นเรื่องที่ยากแก่การถ่ายทอดเป็นข้อความ ผู้เขียนได้พยายามกล่าวถึงรายละเอียดเท่าที่จะกล่าวได้ ถ้าจะให้ดีกว่านี้ ควรฟังจากเสียงประกอบ อย่างไรเสียหากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมโปรดดูข้อมูลหัวข้อ “เพลงซอ” ซึ่งผู้เขียนนำเสนอใน สารานุกรมวัฒนธรรมไทย ภาคเหนือ เล่มที่ 9 หน้า 4766 - 4782 เนื้อหาในนั้นจะมีตัวอย่างคำซอ (เนื้อร้อง) พร้อมตัวโน้ตประกอบ ซึ่งอาจช่วยทำความเข้าใจได้ในระดับหนึ่ง
สนั่น ธรรมธิ สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
(ภาพประกอบโดยเนติ พิเคราะห์ และเสาวณีย์ คำวงค์ )
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่