ค้นหา
เมนู
- หน้าหลัก
- หมวดหมู่
- ภัยพิบัติ (65)
- ธรรมชาติ (286)
- วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (172)
- สังคม (2814)
- วัฒนธรรม (3270)
- ความรู้พื้นฐานทางวัฒนธรรม (19)
- ชาติพันธุ์ (531)
- ประเพณี (780)
- ภูมิปัญญาไทย (1652)
- การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ (11)
- การแต่งกาย (25)
- การรักษาโรค (67)
- การละเล่นพื้นบ้านและนาฏศิลป์ (381)
- การศึกษา (2)
- งานช่างฝีมือพื้นบ้าน (385)
- ผ้าทอ (300)
- งานหล่อ (0)
- งานแกะสลัก (11)
- งานปั้น เครื่องปั้นดินเผา และเซรามิก (12)
- ภาพเขียน (1)
- เครื่องถม (0)
- เครื่องจักรสาน (36)
- เครื่องทอง (1)
- เครื่องเงิน (2)
- เครื่องกระดาษ (2)
- เครื่องเขิน (2)
- เครื่องไม้ (7)
- เครื่องรัก (0)
- เครื่องโลหะ (6)
- เครื่องหนัง (0)
- อัญมณีและเครื่องประดับ (0)
- งานช่างฝีมืออื่นๆ (4)
- ที่อยู่อาศัย (99)
- ภาษาและวรรณกรรม (290)
- ศิลปะการป้องกันตัว (8)
- อาชีพและวิธีการหากิน (27)
- อุปกรณ์หากินและของใช้ (154)
- อาหาร (203)
- เครือข่ายทางวัฒนธรรม (204)
- วัฒนธรรมหลวง (17)
- เนื้อหาวัฒนธรรมรอจัดหมวด (0)
- ศิลปะและการบันเทิง (699)
- ศาสนาและจิตวิญญาณ (7090)
- เนื้อหารอจัดหมวด (26)
- ค้นหาชั้นสูง
- บริจาคเนื้อหา
- เกี่ยวกับโครงการ
ล็อกอิน
เครื่องมือของใช้ล้านนา - งอบกะโล่
งอบกะโล่
งอบ กะโล่ หรือหมวกกะโล่ เป็นเครื่องสวมหัวสำหรับกันแดด กันฝน สานด้วยตอกไม้ไผ่ มีลักษณะใบกลมกว้างเท่ากระด้ง กะโล่ หรือร่ม ด้านนอกกรุใบค้อ ทำรังเหมือนงอบสวมหัว
อาชีพหลักของชาวบ้านโดยทั่วไป ได้แก่ การทำนา ทำไร่ และทำสวน ซึ่งสภาพภูมิอากาศและภูมิประเทศเอื้ออำนวยให้เหมาะแก่การเกษตร อาชีพดังกล่าวนี้ชาวบ้านต้องทำงานกรำแดดกรำฝนในช่วงระยะเวลาอันยาวนาน เช่น พอถึงต้นฤดูทำนา ฝนตกชุกมาก และเมื่อฤดูเก็บเกี่ยวอากาศจะร้อนจัด ชาวบ้านต้องก้ม ๆ เงย ๆ ใช้เคียวเกี่ยวข้าวตั้งแต่เช้าจรดเย็น จนกลายเป็นสำนวนพูดกันติดปากว่า “ หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน ” การทำงานหนักกลางเปลวแดดและกลางสายฝนนี้เอง ชาวบ้านจึงคิดวิธีการป้องกันขึ้น ในช่วงแรกอาจใช้ใบไม้ใบใหญ่ ๆ เช่น ใบตองตึง ใบกล้วย ใบตาล ใบสัก ใบค้อ มาเย็บเป็นรูปกรวยสวมหัว ต่อมาได้พัฒนารูปแบบเป็น งอบกะโล่ งอบ หมวก และร่ม เป็นต้น
งอบกะโล่ หรือหมวกกะโล่ มีใบปีกกว้างมาก ภายในทำเหมือนรังงอบ สานด้วยตากไม้ไผ่เป็นรูปทรงทรงกระบอก ขนาดสวมศีรษะได้พอดี จะสานปีกขยายออกไปเป็นวงกลม มีลายขัดต่าง ๆ เช่น งอบหรือไม่ก็ได้ หากมีโครงสานตอกไม้ไผ่ทำเป็นปีกงอบหรือปีกหมวก ก็จะทำให้วัสดุที่นำมากรุด้านนอกนั้นใช้ได้ทนทานยิ่งขึ้น สำหรับงอบกะโล่ทำง่ายกว่างอบมาก เพราะงอบต้องฉีกใบลานหรือฉีกใบตาลเป็นเสี้ยวเล็ก ๆ ใช้เข็มเย็บตามโครงปีกงอบอย่างละเอียด ส่วนงอบกะโล่ใช้ใบไม้ที่เรียกว่า “ ใบค้อ ” มีลักษณะใบขนาดใหญ่ขนาดใบตาล แต่ใบอ่อนกว่า ตัดใบค้อทั้งใบตกแต่งให้กลม กรุด้านนอกแล้วถักหรือเย็บด้วยหวาย ตอก ลวด ด้าย เป็นต้น นำงอบกะโล่ไปผึ่งแดดให้แห้ง ใช้น้ำมันยางทาให้เลื่อมเพื่อป้องกันตัวมอดและทำให้ใช้ไดทนทานยิ่งขึ้น
งอบกะโล่ เมื่อสวมแล้วจะป้องกันแดดและฝนได้ดี เพราะมีปีกงอบกว้าง ในปัจจุบันไม่มีการใช้งอบกะโล่หรือหมวกกะโล่อีกแล้ว เพราะใบค้อที่นำมากรุหายากในสมัยนี้
ผู้ให้ข้อมูล
๑ . เจ๊ก เจียนพันธุ์ , นาย อายุ ๖๖ ปี บ้านเลขที่ ๑๐๒ หมู่ ๖ ต . วังลึก อ . ศรีสำโรง จ . สุโขทัย
๒ . ทองดี ชิตพันธุ์ , นาง อายุ ๖๕ ปี บ้านเลขที่ ๘๒ หมู่ ๓ ต . คลองตาล อ . ศรีสำโรง จ . พิษณุโลก
๓ . ทองมี หินตั้ง , นาย อายุ ๖๕ ปี บ้านเลขที่ ๓๔ หมู่ ๔ บ้านดงหมี ต . เนินกุ่ม อ . บางกระทุ่ม จ . พิษณุโลก
๔ . ยง บุญเกิด , นาย อายุ ๘๒ ปี บ้านเลขที่ ๕๒ หมู่ ๘ ต . บ้านตาก อ . บ้านตาก จ . ตาก
๕ . วิจารณ์ศุภกิจ , พระครู อายุ ๖๕ ปี วัดทองวราราม ต . วังทอง อ . วังทอง จ . พิษณุโลก