วันที่เอกสารถูกสร้าง: 
29/10/2008
ที่มา: 
เว็บไซต์ล้านนาคดี http://lanna.mju.ac.th/ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ "ทุกภาพ ทุกตัวอักษร มอบเป็นวิทยาทานแด่ทุกท่าน"

งอบกะโล่

งอบ กะโล่ หรือหมวกกะโล่ เป็นเครื่องสวมหัวสำหรับกันแดด กันฝน สานด้วยตอกไม้ไผ่ มีลักษณะใบกลมกว้างเท่ากระด้ง กะโล่ หรือร่ม ด้านนอกกรุใบค้อ ทำรังเหมือนงอบสวมหัว

อาชีพหลักของชาวบ้านโดยทั่วไป ได้แก่ การทำนา ทำไร่ และทำสวน ซึ่งสภาพภูมิอากาศและภูมิประเทศเอื้ออำนวยให้เหมาะแก่การเกษตร อาชีพดังกล่าวนี้ชาวบ้านต้องทำงานกรำแดดกรำฝนในช่วงระยะเวลาอันยาวนาน เช่น พอถึงต้นฤดูทำนา ฝนตกชุกมาก และเมื่อฤดูเก็บเกี่ยวอากาศจะร้อนจัด ชาวบ้านต้องก้ม ๆ เงย ๆ ใช้เคียวเกี่ยวข้าวตั้งแต่เช้าจรดเย็น จนกลายเป็นสำนวนพูดกันติดปากว่า “ หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน ” การทำงานหนักกลางเปลวแดดและกลางสายฝนนี้เอง ชาวบ้านจึงคิดวิธีการป้องกันขึ้น ในช่วงแรกอาจใช้ใบไม้ใบใหญ่ ๆ เช่น ใบตองตึง ใบกล้วย ใบตาล ใบสัก ใบค้อ มาเย็บเป็นรูปกรวยสวมหัว ต่อมาได้พัฒนารูปแบบเป็น งอบกะโล่ งอบ หมวก และร่ม เป็นต้น

งอบกะโล่ หรือหมวกกะโล่ มีใบปีกกว้างมาก ภายในทำเหมือนรังงอบ สานด้วยตากไม้ไผ่เป็นรูปทรงทรงกระบอก ขนาดสวมศีรษะได้พอดี จะสานปีกขยายออกไปเป็นวงกลม มีลายขัดต่าง ๆ เช่น งอบหรือไม่ก็ได้ หากมีโครงสานตอกไม้ไผ่ทำเป็นปีกงอบหรือปีกหมวก ก็จะทำให้วัสดุที่นำมากรุด้านนอกนั้นใช้ได้ทนทานยิ่งขึ้น สำหรับงอบกะโล่ทำง่ายกว่างอบมาก เพราะงอบต้องฉีกใบลานหรือฉีกใบตาลเป็นเสี้ยวเล็ก ๆ ใช้เข็มเย็บตามโครงปีกงอบอย่างละเอียด ส่วนงอบกะโล่ใช้ใบไม้ที่เรียกว่า “ ใบค้อ ” มีลักษณะใบขนาดใหญ่ขนาดใบตาล แต่ใบอ่อนกว่า ตัดใบค้อทั้งใบตกแต่งให้กลม กรุด้านนอกแล้วถักหรือเย็บด้วยหวาย ตอก ลวด ด้าย เป็นต้น นำงอบกะโล่ไปผึ่งแดดให้แห้ง ใช้น้ำมันยางทาให้เลื่อมเพื่อป้องกันตัวมอดและทำให้ใช้ไดทนทานยิ่งขึ้น

งอบกะโล่ เมื่อสวมแล้วจะป้องกันแดดและฝนได้ดี เพราะมีปีกงอบกว้าง ในปัจจุบันไม่มีการใช้งอบกะโล่หรือหมวกกะโล่อีกแล้ว เพราะใบค้อที่นำมากรุหายากในสมัยนี้

ผู้ให้ข้อมูล

๑ . เจ๊ก เจียนพันธุ์ , นาย อายุ ๖๖ ปี บ้านเลขที่ ๑๐๒ หมู่ ๖ ต . วังลึก อ . ศรีสำโรง จ . สุโขทัย

๒ . ทองดี ชิตพันธุ์ , นาง อายุ ๖๕ ปี บ้านเลขที่ ๘๒ หมู่ ๓ ต . คลองตาล อ . ศรีสำโรง จ . พิษณุโลก

๓ . ทองมี หินตั้ง , นาย อายุ ๖๕ ปี บ้านเลขที่ ๓๔ หมู่ ๔ บ้านดงหมี ต . เนินกุ่ม อ . บางกระทุ่ม จ . พิษณุโลก

๔ . ยง บุญเกิด , นาย อายุ ๘๒ ปี บ้านเลขที่ ๕๒ หมู่ ๘ ต . บ้านตาก อ . บ้านตาก จ . ตาก

๕ . วิจารณ์ศุภกิจ , พระครู อายุ ๖๕ ปี วัดทองวราราม ต . วังทอง อ . วังทอง จ . พิษณุโลก