วันที่เอกสารถูกสร้าง: 
06/11/2008
ที่มา: 
เว็บไซต์ล้านนาคดี http://lanna.mju.ac.th/ "ทุกภาพ ทุกตัวอักษร มอบเป็นวิทยาทานแด่ทุกท่าน"

นิทานล้านนา เรื่อง เซี่ยงเมี่ยงแบ่งช้าง

บรรดาบุคคลที่เฉลียวฉลาดและสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้โดยคล่องแคล่วว่องไวใน วรรณคดีของไทยแล้ว ทุกคนต้องยกให้เซี่ยงเมี่ยง บางคนถึงเติมสร้อยให้ว่า เซี่ยงเมี่ยงเจ้าปัญญา

มีช้างพังเชือกหนึ่งของเจ้าผู้ครองประเทศข้างเคียง หลงทางพลัดเข้าในสวนของเซี่ยงเมี่ยง เซี่ยงเมี่ยงสั่งให้ข้าทาสของตนจับช้างนั้นไว้ เขานำเอาช้างพังตัวนั้นไปรับจ้างชักลากฟืน ตลอดจนบรรทุกของต่าง ๆ

ข่าวการได้ช้างของเซี่ยงเมี่ยงทราบไปถึงพระกรรณของเจ้าผู้ครองนคร พระองค์ให้เสนามาเรียกเซี่ยงเมี่ยงไป เมื่อพบก็ตรัสถามทันทีว่า

‘' เออ เจ้าเซี่ยงเมี่ยง ข้าทราบว่าเจ้าจับช้างได้ใช่ไหม ''

เซี่ยงเมี่ยงกราบทูลว่า ‘' เป็นความจริงพระพุทธเจ้าข้า ''

เจ้าผู้ครองนครตรัสว่า ‘' ดังนั้นก็แล้ว ทรัพย์สินใด ๆ ที่พลัดเข้ามาในเขตขัณฑสีมาของข้าทรัพย์นั้นควรเป็นของข้าครึ่งหนึ่งเสมอ ‘'

เซี่ยงเมี่ยงกราบทูลว่า ‘' เป็นความจริงพระพุทธเจ้าข้า หากพระองค์มีพระประสงค์ข้าพระพุทธเจ้าขอแบ่งให้พระองค์ครึ่งหนึ่ง

( เล่าโดย สมบุญ ศรีชลธาร ตลาดพานิชเจริญ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ .)

เจ้าผู้ครองนครสรวลออกมาด้วยความพอพระทัย

‘' เออ …. เจ้านี่รู้หลักกฏหมายและขนบธรรมเนียมของบ้านเมืองดีนี่ เจ้าจะแบ่งส่วนไหนให้เราล่ะ '' เจ้าผู้ครองนครถาม

เซี่ยง เมี่ยงนิ่งคิดสักครู่ก็กราบทูลว่า ‘' ข้าพระพุทธเจ้าเป็นข้าแผ่นดินของพกระองค์ ดังนั้นข้าพระพุทธเจ้าจึงเปรียบเหมือนช้างเท้าหลัง พระองค์เป็นช้างเท้าหน้า ดังนั้น ข้าพระพุทธเจ้าขอมอบครึ่งส่วนหน้าให้พระองค์ ส่วนครึ่งหลังเป็นของข้าพระพุทธเจ้าเองพระพุทธเจ้าข้า ''

เจ้าผู้ครองนครตบพระหัตถ์ด้วยความพอพระทัย ‘' ดีแล้ว ๆ เจ้าพูดถูกต้อง เจ้าคอยดูแลช้างให้ดีก็แล้วกัน '' เซี่ยงเมี่ยงก้มลงกราบรับบัญชาแล้วบังคมลากลับบ้าน

นับแต่วันนั้นมาเซี่ยงเมี่ยงยิ่งใช้งานหนักขึ้น อาหารต่าง ๆ ที่ช้างกินนั้นเขาให้ช้างกินดีที่สุดส่วนค่าอาหารนั้นให้ไปคิดเอาที่เจ้าผู้ ครองนคร เวลารับจ้างได้เงินทองมา เขาก็เก็บรายได้ทั้งหมดที่ใช้ช้างทำงานตอนกลางวันเป็นของตนเสียผู้เดียว

พอเย็นลงก็ปล่อยช้างให้เข้าไร่เข้าสวนกินกล้วยกินต้นหมาก ต้นมะพร้าวของชาวบ้าน ชาวบ้านจับเรียกค่าไถ่ เซี่ยงเมี่ยงก็ให้ไปเบิกเอาจากท้องพระคลัง เพราะส่วนหน้าของช้างเป็นผู้นำ ดังนั้นเจ้าผู้ครองนครจึงต้องเป็นผู้รับชดใช้ ส่วนของตนอยู่ข้างหลังต้องเดินตามเท้าหน้าไปจึงไม่ได้รับผิดชอบ

ต่อมาช้างนั้นได้คลอดลูก เซี่ยงเมี่ยงก็รับค่าจ้างทั้งหมดเพราะถือส่วนที่ออกแรงที่สุดคือส่วนข้างหลัง

เจ้าผู้ครองนครทราบเรื่องราวเห็นว่า ถ้าพระองค์ยังทรงขืนรับส่วนแบ่งเช่นนี้คงขาดทุนเรื่อยไป ดังนั้น พระองค์จึงตรัสบอกเซี่ยงเมี่ยงว่า

‘' อ้ายเซี่ยงเมี่ยงเอ๋ย ช้างที่เจ้าแบ่งส่วนข้างหน้าให้ข้านั้นข้าขอคืนให้เจ้า ข้าไม่ขอรับเอาอีกต่อไปแล้ว ขอยกให้เจ้าทั้งหมด ''

เซี่ยงเมี่ยงก้มลงกราบ กล่าวคำขอบพระทัยที่พระองค์ทรงพระกรุณาเช่นนั้น

ข้อคิดที่ได้จากนิทานเรื่องนี้

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การใดจะได้จะเสียพึงพิจารณาให้รอบคอบ ไม่ควรด่วนตัดสินใจอะไรง่าย ๆ เพราะมักจะนำความเสียหายมาสู่ตนได้

เซี่ยงเมี่ยงเป็นคนฉลาดแกมโกง คนเยี่ยงนี้จะทำให้คนเดือดร้อนตลอดมา

คติ

‘' อย่าใจเร็วด่วนได้ ''