วันที่เอกสารถูกสร้าง: 
06/11/2008
ที่มา: 
เว็บไซต์ล้านนาคดี http://lanna.mju.ac.th/ "ทุกภาพ ทุกตัวอักษร มอบเป็นวิทยาทานแด่ทุกท่าน"

นิทานล้านนา เรื่อง ปุ๋ยลำไย

ลุงทาเป็นชาวสวน แกทำสวนลำไยกว้างขวาง ในฤดูลำไยออกดอกออกผล แกมีความสุขใจที่สุด ดังนั้นตลอดวันแกจะขลุกอยู่แต่ในสวนลำไยตลอดเวลา

ลุงทาจะคอยเอาใจใส่ดายหญ้า พรวนดิน และใส่ปุ๋ยรดน้ำ ครั้นฤดูร้อนย่างเข้ามาทางเทศบาลเบื่อสุนัข ลุงทาจะชื้อซากสุนัขเหล่านั้นจากพนักงาน แล้วนำเอาไปฝั่งไว้ที่โคนต้นลำไยต้นละตัว การที่แกทำเช่นนี้ทำให้สวนลำไยของแกงอกงามยิ่งนัก

จนแกบอกกับใคร ๆ ว่า การเอาสัตว์ที่ตายแล้วไปฝังโคนต้นช่วยให้ต้นลำไยเจริญเติบโตรวดเร็วยิ่งนัก ถ้าใครไม่เชื่อก็ลองดูเถิด มันโตวันโตคืนเชียว วันหนึ่งลุงเขียวเพื่อนบ้านได้แวะไปเยี่ยมลุงทาที่บ้านแต่ไม่พบ แกจึงเลยแวะไปหาที่สวนลำไย

พอดี ขณะนั้นย่างเข้าฤดูร้อน ไก่แก่กำลังเป็นโรคระบาดตายกัน และลุงเขียวเป็นนักเลี้ยงไก่ ที่บ้านแกมีไก่มากมาย ลุงทาเห็นเป็นโอกาสเหมาะจึงเอ่ยปากบอกลุงเขียวว่า

‘' เขียว เขียว ถ้าไก่คิงตาย ฮาขอเหียเน่อ ‘' ( เพื่อน ถ้าไก่ตายขอเสียนะ ) ลุงเขียวได้ยินชักโมโหที่เพื่อนมาพูดเช่นนี้เป็นการแช่งให้ไก่ของตนตาย จึงถามออกไปอย่างโมโหนิด ๆว่า

‘' ถ้าไก่ฮา ( ฉัน ) ตาย คิง ( เพื่อน ) จะเอาไปยะหยัง ‘'( ทำไมล่ะ ) ลุงทาได้ยินไม่คิดว่าเพื่อนของตนโมโหจึงกล่าวว่า ‘' ถ้าได้ไก่ตาย ฮา ( ฉัน ) ก็จะเอามาใส่ต้นลำไยเป็นปุ๋ยละก่า ‘' ( ละซิ )

ลุงเขียวชักฉุน เลยกล่าวต่อไปว่า ‘' ถ้าจะอั้นกันงัวของฮาต๋ายลอ คิงจะเอาก่อ '' ( ยังนั้นถ้าวัวของฉันตายจะเอาไหมล่ะ ) ลุงทาหัวเราะว่า ‘' เอาก่า เอาก่า ถ้างัวของคิงตาย ฮาจะแบ่งใส่ได้หลายต้น ขอคิงฮื้อแต้ ๆ เต็อะ '' ( เอาซี เอาซี ถ้าวัวเพื่อนตาย จะได้แบ่งฝังได้หลายต้น ขอให้ก็แล้วกัน ) แกตอบไปอย่างพาซือ

ลุงเขียวชักหมั่นไส้ในความเห็นแก่ตัวของเพื่อนจึงพูดตัดบทว่า ‘' ถ้าจะอั้นรถบดถนนต๋ายคิงจะเอาก่อ บ่าเดี๋ยวนี้มีหลายกันจอดอยู่ในโฮงรถข้างก๋มทาง ''( ถ้างั้นรถบดถนนตายล่ะจะเอาไหมเดี๋ยวนี้มีหลายคันอยู่ในโรงรถนั้น )

ลุงทาได้ฟังจึงรู้ว่าลุงเขียวพูดเล่นแง่กับตน จึงโมโหและโพล่งออกมาโดยไม่รู้ตัวว่า '' ดีก่าบ่าถ้ารถบดต๋ายแต้ ๆ ฮาจะเอาเป็นปุ๋ยสากมอง ไปไป้ปู่เขียว กำเดียวจะหัวแตก ''( ดีซี ถ้ารถบดถนนตายกัน จะเอาเป็นปุ๋ยสากตำข้าว )

ลุงเขียวรู้ท่าว่าเพื่อนของตนโกรธจึงรีบก้าวเท้าจ้ำเดินจากไปโดยไม่เหลียวหลัง พร้อมกับบ่นพึมพำว่า ‘' คนอะหยังจะใดจะเอาก่าได้ฝ่ายเดียว ''( คนอะไรจะเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว )

ข้อคิดที่ได้จากนิทานเรื่องนี้
ความโลภเป็นสมบัติของคนเห็นแก่ตัว และพูดอะไรมักขาดเหตุผล หรือการขออะไรจากใครพึงขอในสิ่งที่ควรขอ