วันที่เอกสารถูกสร้าง: 
06/11/2008
ที่มา: 
เว็บไซต์ล้านนาคดี http://lanna.mju.ac.th/ "ทุกภาพ ทุกตัวอักษร มอบเป็นวิทยาทานแด่ทุกท่าน"

นิทานล้านนา เรื่อง นักเลงปืนเสียท่า
 
หลายปีมาแล้ว มีนักล่าสัตว์ผู้หนึ่งชอบยิงนกยิ่งนัก ทุก ๆ วันเมื่อมีเวลาว่าง เขาจะคว้าปืนคู่มือออกจากบ้านไปเที่ยวหายิงนกตามขอบบึง ซึ่งมีนกเป็ดและนกอื่น ๆ นานาชนิดลงมาหากิน

เขามาคอยดักยิงนกที่นี่เป็นประจำ เมื่อยิงได้นกมากพอเขาก็หิ้วนกที่ยิงได้เป็นพวงโตกลับบ้านเวลาผ่านมาชาวบ้าน และพวกเด็กจะมองดูพวงนกนั้นด้วยความอยากได้ เพราะเขามีฝีมือ

แม่นจริงๆ มาคราวไรไม่เคยพลาด ขากลับไม่พวงก็สองพวงเสมอ

อยู่มาวันหนึ่งเป็นเวลาบ่าย ชายผู้นี้ดักยิงนกตามเคย วันนั้นนกพิราบป่าฝูงใหญ่บินลงมาหากินที่ขอบบึง เขาจะเข้าไปใกล้ก็เกรงว่าฝูงนกจะตื่น ตนจะพลาดโอกาสอันนี้เสีย

ดังนั้นเขาจึงค่อย ๆ เคลื่อนตัวเข้าไปยังเป้านั้นช้า ๆ จ้องจับสายตาหมายที่นกป่าลง และขณะเดียวกันนั้น บริเวณใกล้ ๆ กับขอบบึง มีต้นไม้ทอดกิ่งยื่นลงมา เขาเพ่งดูก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ

จนกระทั่งเมื่อเขาอยู่ในที่เหมาะแล้ว เขาจึงตบมือและตะโกนเต็มเสียง ฝูงนกพิราบป่าตกใจพากันบินขึ้นทันที ในโอกาสนี้เองเขาได้ประทับปืนลูกซองซึ่งบรรจุลูกเป็นชนิดลูกปรายแล้วกดไกยิง ออกไปทันที

‘' โป้ง โป้ง เขายิงออกไปไล่ ๆ กันถึง ๒ นัด ฝูงนกที่กำลังบินขึ้นร่วงตกลงหลายสิบตัว เขาดีใจมากที่การยิงครั้งนี้ได้ผลดีเกินที่คาดไว้ รีบวิ่งเข้าไปหมายใจจะเก็บ

ทันใดนั้นสายตาของเขาเหลือบเห็นร่างของเด็กชาย ๒ คน ร่วงพลัดตกจากกิ่งไม้ แล้วร้องครวญครางชักดิ้นชักงอคล้ายกับถูกยิง อารามตกใจที่ตนเองเป็นผู้ยิงพลาดไปถูกเด็ก ๒ คน จะเป็นจะตายอย่างไรไม่รู้ เขาเหลียวซ้ายแลขวา เมื่อไม่เห็นใครก็รู้สึกโล่งใจรีบคว้าปืน มุ่งหน้าวิ่งหนีกลับบ้านอีกทางหนึ่งทันที

ตลอดทางเฝ้าครุ่นคิดว่า เด็กสองคนนั้นมันถูกยิงบาดเจ็บมากไหมหนอ หากตายไปตนเองคงจะต้องได้รับโทษฐานฆ่าคนตายโดยประมาทเป็นแน่แท้ แต่ก็ยังสบายใจที่ไม่มีใครเห็น เขารีบจ้ำเดินจนถึงบ้านของตน

หลังจากนั้นก็เก็บปืนพร้อมกับทำความสะอาดเหมือนหนึ่งไม่ได้ใช้ปืนนั้นเลย และขณะเดียวกันก็คอยสดับฟังข่าวว่ามีเด็กถูกยิงตายไปบ้างไหมในบริเวณขอบบึง นั้น ปรากฏว่าไม่มีข่าวเลย

วันรุ่งขึ้นภรรยาของเขาไปตลาด ได้ชื้อนกพิราบป่ามา ๒ พะวง สามีสงสัยจึงถามว่า

‘' นี่เธอไปชื้อนกมาจากไหน นกพิราบทั้งนั้น ‘'

ภรรยาไม่รู้เรื่อง จึงตอบว่า ‘' ก็ชื้อมาจากตลาดละซิ ฉันเองก็สงสัยเหมือนกันว่าพวกนี้ทำไมจึงยิงเก่งนัก มันยิงได้ตั้งมากมาย ''

สามีรีบถามภรรยาว่า ‘' ใครเป็นคนเอามาขาย เธอจำหน้าได้ไหม ''

ภรรยาเงยหน้าขึ้นดูและบอกว่า ‘' จำได้ซิ เป็นเด็กชาย ๒ คน มันเอามาขาย ฉันถามมันๆว่าพ่อไปยิงเมื่อวานนี้

สามี นึกรู้ทันทีว่าตนเสียทีถูกเด็กต้มเสียแล้ว เด็กทั้งสองแกล้งทำเป็นถูกยิง พอตนวิ่งหนีจึงกลับมาเก็บนกที่ตนยิงไว้มาขาย เมื่อไม่สามารถทำอย่างไรได้ก็คงได้แต่อุทานออกมาดัง ๆ ว่า

‘' ตั้งแต่เกิดมาเป็นคนเพิ่งมาเสียทีเด็กคราวนี้เอง ‘'

ข้อคิดที่ได้จากนิทานเรื่องนี้

การเป็นพรานป่าที่ไม่มีความรอบคอบมักประสบปัญหา นี่ยังดีเพียงแต่เสียทีเด็กเท่านั้น บางรายเป็นอันตรายและได้รับโทษด้วย เล่ห์กลมายานั้นมักมีอยู่ในหมู่คนทุกเพศทุกวัย แม้ในเด็กก็ยังมีเล่ห์เหลี่ยม

คติ ‘'คนโง่ย่อมเป็นเหยื่อของคนฉลาด''