พิธีกรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ - แสกเต้นสาก

วันที่เอกสารถูกสร้าง: 
16/12/2008
ที่มา: 
ประเพณีไทยดอทคอม http://www.prapayneethai.com/

แสกเต้นสาก

  

ภาค     ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
จังหวัด  นครพนม

  • ช่วงเวลา วันขึ้น ๒-๓ ค่ำ เดือน ๓ ของทุกปี (ประมาณเดือนกุมภาพันธ์)
  • ความสำคัญ

เป็นการบวงสรวงวิญญาณของบรรพบุรุษของชาวแสก และเป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีต่อบรรพบุรุษ ที่ได้ช่วยให้อยู่เย็นเป็นสุขและประสบความสำเร็จในการประกอบอาชีพ

การแสดงแสกเต้นสากชาวแสกจะไม่แสดงบ่อยนัก ตามประเพณีชาวแสกจะแสดงการเต้นสากในวันขึ้น ๒-๓ ค่ำ เดือน ๓ ซึ่งตรงกับประเพณี กินเตรท" หรือ "วันตรุษญวน" ในวันนี้ ชาวแสกทั้งหมดจะพากันนำดอกไม้ ธูปเทียน ข้าวปลาอาหารไปพร้อมกันที่ศาลเจ้าที่ชาวแสกเรียกว่า ศาลองมู่" ซึ่ง องมู่" นี้เป็นบรรพบุรุษที่ชาวแสกเคารพนับถือมากจะทำกิจการใดก็มักจะไปบนบานศาล กล่าวเสมอและว่ากันว่าศักดิ์สิทธิ์มาก

  • พิธีกรรม

ชาวแสกในหมู่บ้านอาจสามารถ อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม จะนำดอกไม้ ธูปเทียน ข้าวปลาอาหาร หัวหมู เหล้าขาว น้ำอัดลม ฯลฯ ไปพร้อมกันที่ศาลองมู่ที่ชาวแสกเคารพนับถือ เมื่อทำพิธีถวายอาหารเครื่องดื่มแล้ว ก็จะมีประเพณีแสกเต้นสาก โดยให้ชาวแสกชายหญิงประมาณ ๑๐ คู่ ออกมาเต้นสาก เป็นการบวงสรวงองมู่ด้วย

เมื่อชาวแสกนำข้าวปลาอาหารทยอยกันไปที่ ศาลองมู่" ศาลนี้จะตั้งอยู่ทางตะวันออกติดริมฝั่งแม่น้ำโขง ลักษณะเหมือนศาลพระภูมิทั่ว ๆ ไป มีไฟประดับให้สวยงาม ในวันงาน รอบ ๆ ศาลจะมีไม้ทำเป็นดาบทาสีอยู่รอบศาล สันนิษฐานว่าแสดงถึงความสามารถในด้านการต่อสู้ซึ่งสามารถนำประชาชนพรรคพวก ตนมาหาชัยภูมิอันเหมาะสมได้ หลังจากนั้นก็จะมีพิธีบวงสรวงวิญญาณบรรพบุรุษ ในวันขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๓

สำรับที่ใช้สำหรับถวายองมู่ ได้แก่ เหล้า โรงอาหารคาวหวาน ดอกไม้ ธูปเทียน หากชาวแสกจัดพิธีใดขึ้นต้องบอกกล่าวแก่องมู่ก่อน เชื่อกันว่า หากไม่บอกกล่าวให้องมู่ทราบก่อน ชาวแสกผู้นั้นจะต้องมีอันเป็นไป
พอชาวแสกมาพร้อมกันแล้ว หมอเยา" หรือ "หมอเหยา" จะทำพิธีบวงสรวงโดยการจุดธูปเทียนเทเหล้าใส่จอก และเชิญ องมู่" มารับของที่นำมาบวงสรวงเป็นภาษาแสก

ต่อจากนั้นก็เป็นพิธีโยนเหรียญ ซึ่งลักษณะเหรียญจะเป็นเหรียญแบบโบราณหรือสตางค์แดงทาสีขาวด้านเดียว จำนวนสองเหรียญ หมอเหยาหรือ หมอเยา จะโยนเหรียญแบบโบราณหรือสตางค์แดงขึ้นเพื่อเสี่ยงทายว่าที่จัดพิธีในวันนี้ ขึ้นขออนุญาตถ่ายรูปจะได้ไหม และพอใจกับการกระทำนี้ไหม แล้วก็โยนเหรียญลงกับพื้น หากเหรียญตกลงหงายด้านเดียวกัน สีขาวเหมือนกันหรือดำเหมือนกันแสดงว่าไม่พอใจ ถ้าหากเหรียญสองเหรียญต่างกัน แสดงว่าอนุญาตหรือพอใจ ถ้าหากเหรียญเหมือนกันคือไม่พอใจ ต้องทำพิธีใหม่และเสี่ยงอีกครั้งจนกว่าจะพอใจ

การแสดงเต้นสากของชาวแสกหลังจากเสร็จพิธีบวงสรวงองมู่แล้ว ชาวแสกก็จะนำสากตำข้าว (สมัยโบราณ) ลักษณะคอดตรงกลาง ปัจจุบันเป็นแบบตรง วางบนไม้แท่นแล้วกระทบกันให้เป็นจังหวะที่ไม้กางออกซึ่งจะมีอยู่ประมาณ ๑๐-๒๐ คู่ มาเต้นบวงสรวง การแสดงเต้นสากนี้จะเผยแพร่ให้ผู้อื่นที่มิใช่ชาวแสกไม่ได้เด็ดขาด หากผู้ใดสนใจก็จะศึกษาค้นคว้า ก็ต้องขออนุญาตจากองมู่ก่อน

การแสดงเต้นสากโชว์หรือพิธีสำคัญ ๆ ชาวแสกจะต้องแต่งกาย ดังนี้
เสื้อ แขนกระบอกสีดำ
ผ้านุ่ง ผ้าถุงยาวกรอมเท้า
ผ้าคาดเอว หรือเข็มขัด ทำด้วยผ้าตีนจก
สไบ ห่มสไบสีแดงทับ
เครื่องประดับ สร้อย ต่างหู เท่าที่หาได้
เครื่องดนตรีประกอบการเล่น
เครื่องดนตรีที่ใช้ในการเต้นสาก ไม่มีอะไรมากมีเท่าที่หาได้เช่น กลอง ฉิ่ง ฉาบ เพราะเหตุที่ไม่มีเครื่องดนตรีประกอบนี้เอง จึงทำให้ไม่ค่อยมีผู้นิยมมากนัก (ปัจจุบันมี แคน และร้องเพลง ประกอบด้วย)

  • สาระ

เป็นการแสดงออกถึงความสามัคคี ร่วมแรงร่วมใจของชาวแสกในหมู่บ้าน และความกตัญญูรู้คุณต่อผู้มีพระคุณและนอกจากนั้นยังแสดงถึงความเชื่อทางไสย ศาสตร์ เพราะชาวแสกนับถือ ผี" แบบชาวอีสานทั่วไป แตกต่างกันตรงที่ชาวแสกจะสานตะกร้าด้วยไม้ไผ่ซ่อนไว้หรือซุกไว้มุมใดมุม หนึ่งของบ้าน เพื่อให้ผีได้มาพักอาศัยอยู่ในนั้น เวลาเจ็บป่วยก็จะมีหมอเหยามาทำพิธีคล้ายกับ รำปอบผีฟ้า" หรือ รำผีฟ้า" และรักษากับสมุนไพร ปัจจุบันชาวแสกก็ดำเนินชีวิตเหมือนชาวอีสานทั่วไป