วันที่เอกสารถูกสร้าง: 
10/02/2009
ที่มา: 
เว็บไซต์วิถีชาวบ้านของ ครูศรีจันทรัตน์ กันทะวัง http://school.obec.go.th/phifo/index.html

"ล้อแล็ด" ภูมิปัญญาชาวบ้าน ให้ลูกหลานออกกำลังกาย
ศรีจันทรัตน์  กันทะวัง - ผู้เขียน

     พระอาทิตย์คล้อยต่ำ สาดแสงอ่อน สายลมเอื่อยพัดยอดข้าวเขียวที่กำลังตั้งต้น หลังจากชาวนาได้ปลูกไว้เมื่อเดือนก่อน เหล่าผีเสื้อแมงปอบินอยู่บนท้องฟ้า วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใสไร้เมฆหมอกอันทะมึน แม้เป็นกลางฤดูฝน กลุ่มเด็ก 6 - 7 คน กำลังออดอ้อน พ่อหลวงตี้ ชายชราผู้ใจดีของหลาน ๆ ให้ช่วยทำล้อแล็ดของเล่นชิ้นโปรดให้ พ่อหลวงตี้นึกถึงสมัยวัยเยาว์ ที่ตนและกลุ่มเพื่อน ๆ เพลิดเพลินกับการเล่นล้อแล็ดของเล่นยอดนิยมในสมัยนั้น กลุ่มเด็ก ๆ ใช้ล้อแล็ดวิ่งเล่นไปยังบ้านเหนือ-บ้านใต้ วิ่งจนเหนื่อยกระหายน้ำที่ไหนก็แวะที่นั่น ไม่รู้บ้านใครเป็นบ้านใคร ก็แวะกินน้ำที่เฮือนน้ำ ซึ่งแต่ละบ้านมีเฮือนน้ำไว้หน้าบ้าน บ้านในสมัยนั้นไม่มีตู้เย็น ไม่มีรั้ว จะถึงกันหมด แต่ผู้คนรู้กันเองว่าเขตพื้นที่เป็นของใคร

     เฮือนน้ำ เป็นซุ้มที่ทำจากไม้ มุงด้วยหลังคาหญ้าคาหรือดินขอ (ดินเหนียวเผา ทำเป็นแผ่นกระเบื้อง) ทำเป็นชั้นวางหม้อน้ำดินเผา ใส่น้ำดื่มไว้ ทำที่วางหรือแขวนกระบวยตักน้ำ ใครที่ผ่านไปผ่านมาอยากดื่มน้ำก็ดื่มได้ไม่มีใครว่า น้ำหมดก็เติมใหม่ พ่อหลวงตี้ ทนฟังเสียงรบเร้าของเด็ก ๆ ไม่ไหว ประกอบกับความใจดี แกจึงถือมีดไปตัดลำไม้ไผ่ข้างบ้านมาได้ 1 ลำ นำมาตัดเป็นท่อน ๆ ยาวบ้างสั้นบ้างตามความเหมาะสมกับเด็กแต่ละคน จากนั้นไปหาเศษไม้แผ่นที่กองอยู่ใต้ถุนบ้านมาถากให้เป็นรูปวงกลมได้ครบตามจำนวนเด็ก

                                                                             
พ่อหลวงกำลังทำล้อแล็ดให้หลาน ๆ

     หลังจากถากไม้เป็นรูปวงกลมสำหรับทำเป็นล้อได้แล้ว จึงเจาะตรงจุดกึ่งกลางให้เป็นรูสำหรับใส่แกนเพื่อให้ล้อหมุนได้ นำไม้ไผ่ที่ตัดเป็นท่อน ๆ าถากใช้ตะปูตอกให้ติดกับแกนล้อ แล้วตัดไม้ไผ่เป็นท่อนเล็ก ๆ สำหรับทำที่จับ โดยใช้เชือกมัดกับท่อนไม้ไผ่ท่อนแรก จากนั้นก็ได้ล้อแล็ดที่สามารถนำไปวิ่งเล่นได้ ล้อแล็ด เป็นการเล่นออกกำลังกายที่เด็ก ๆ อายุ 7 - 12 ขวบ นิยมวิ่งเล่นแข่งกัน ยิ่งจำนวนคนเล่นมากยิ่งสนุก อุปกรณ์ที่ใช้ทำก็หาได้ง่ายและมีในท้องถิ่น เรียกล้อแล็ด เนื่องจาก มีลักษณะเป็นล้อหมุน ส่วนคำว่า แล็ด เป็นเสียงของล้อเมื่อหมุนบนถนนลูกรังประกอบกับแกนล้อหมุนกระทบกระบอกไม้ไผ่ ทำให้เกิดเสียงดังแล็ด ๆ ... ยิ่งวิ่งเร็วยิ่งเสียงดัง วิ่งหลายคนยิ่งเพิ่มความดังและความสนุกสนานที่เกิดจากเสียงร้องของเด็กที่ วิ่งและเสียงเชียร์จากกลุ่มเพื่อน ๆ

     เด็ก ๆ ชอบเล่นล้อแล็ดเพราะสนุกกว่าการวิ่งแข่งธรรมดา และสามารถวิ่งเล่นได้ทั้งวัน ไปนั่นมานี่ สามารถบังคับให้วิ่งไปข้างหน้า ถอยหลัง เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาได้ตามต้องการ เด็ก ๆ ชอบการแข่งขันความเร็วแค่ได้รางวัลเป็นเสียงเฮจากเพื่อนเมื่อเข้าเส้นชัย เป็นที่หนึ่ง ก็สร้างความภูมิใจแล้ว ถือว่า วันนั้นได้เป็นฮีโร่ของเพื่อน แต่ผู้แพ้ก็มีโอกาสได้แก้ตัวเสมอ อาจแพ้เกมนี้แต่อาจชนะเกมหน้า ผลัดเปลี่ยนกันเป็นผู้แพ้และผู้ชนะ เด็ก ๆ ยอมรับกติกาได้เสมอ อีกทั้งเป็นการฝึกทักษะการรวมกลุ่ม คนที่เก่งและนิสัยดีมักถูกยกให้เป็นหัวหน้าทีม แต่ถ้าใครนิสัยไม่ดีและชอบเอาเปรียบเพื่อนก็จะถูกกลุ่มสังคมเล็ก ๆ ปฏิเสธไม่ให้เข้ากลุ่ม แต่ผู้ที่อยู่คนเดียวโดยไม่มีเพื่อนก็อยู่ได้ไม่นาน ต้องหาวิธีไปดีกับเพื่อนเพื่อให้ยอมรับเข้ากลุ่ม สังคมก็ให้อภัยเสมอ เด็ก ๆ จึงมีความสุขได้ง่ายเพราะรู้จักการให้อภัยและไม่โกรธนาน วันนั้น หลังจากได้ล้อแล็ดคนละอันแล้ว เด็ก ๆ ต่างดีใจ รีบนำล้อแล็ดของตนเองไปวิ่งเล่นตามถนนลูกรัง โดยมีจักรเด็กชายหัวจุกเป็นหัวโจกการเล่นครั้งนี้ เสียงร้องอย่างร่าเริงดีใจของเด็กที่ได้ของเล่นชิ้นใหม่ที่ถูกใจ ความอิสระจากการเล่นโดยปราศจากการควบคุมของผู้ใหญ่ ต่างวิ่งเล่นแข่งความเร็ว ขึ้น ๆ ลง ๆ ตามเนินดิน บางครั้งล้มคว่ำ แต่ก็ลุกขึ้นมาเล่นใหม่ เสียงหัวเราะใส ๆ หน้าตาซื่อ ๆ ของเด็กน้อยชาวชนบทขณะวิ่งเล่นบนถนนที่สองฝั่งถนนเป็นทุ่งนาสีเขียว มีพ่อหลวงตี้นั่งมองเด็ก ๆ แล้วยิ้มที่มุมปากเมื่อหวนถึงอดีต

     ภาพความงดงามแห่งความบริสุทธิ์นี้หาได้ไม่ง่ายนักในสังคมยุคปัจจุบัน