พระราชบัญญัติคุ้มครองการดำเนินงานขององค์การดาวเทียมเคลื่อนที่ระหว่างประเทศพ.ศ. ๒๕๕๐
พระราชบัญญัติคุ้มครองการดำเนินงานขององค์การดาวเทียมเคลื่อนที่ระหว่างประเทศพ.ศ. ๒๕๕๐
______
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๐
เป็นปีที่ ๖๒ ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรให้มีกฎหมายคุ้มครองการดำเนินงานขององค์การดาวเทียมเคลื่อนที่ระหว่างประเทศ
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ดังต่อไปนี้
มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติคุ้มครองการดำเนินงานขององค์การดาวเทียมเคลื่อนที่ระหว่างประเทศ พ.ศ. ๒๕๕๐”
มาตรา ๔ เพื่อคุ้มครองการดำเนินงานในประเทศไทยขององค์การให้บรรลุตามความมุ่งประสงค์
(๑) ให้ยอมรับนับถือว่าองค์การเป็นนิติบุคคล และให้ถือว่ามีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย
(๒) ในระหว่างที่ปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทย หรือเข้ามาในประเทศไทยเพื่อปฏิบัติหน้าที่ หรือในการปฏิบัติภารกิจเกี่ยวกับองค์การ ให้องค์การ ทรัพย์สิน สินทรัพย์ และบรรณสารขององค์การบุคคลในคณะเจ้าหน้าที่ ผู้แทนของรัฐภาคี และผู้เชี่ยวชาญขององค์การ ตลอดจนสมาชิกของครอบครัว ซึ่งประกอบเป็นส่วนของครัวเรือนของบุคคลดังกล่าว ได้รับเอกสิทธิ์และความคุ้มกันตามที่ระบุไว้ในพิธีสารว่าด้วยเอกสิทธิ์และความคุ้มกันขององค์การดาวเทียมเคลื่อนที่ระหว่างประเทศ ซึ่งทำเมื่อวันที่ ๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๔ ที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยความตกลง ซึ่งทำเมื่อวันที่ ๒๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๑ ท้ายพระราชบัญญัตินี้ หรือที่รัฐบาลจะได้ทำความตกลงต่อไปกับองค์การ ทั้งนี้ ในกรณีที่บุคคลใน คณะเจ้าหน้าที่หรือผู้เชี่ยวชาญขององค์การเป็นบุคคลผู้มีสัญชาติไทยหรือผู้มีถิ่นที่อยู่เป็นการถาวรในประเทศไทย ให้ได้รับเอกสิทธิ์และความคุ้มกันตามที่ระบุไว้ในพิธีสารดังกล่าวเฉพาะที่เป็นการกระทำตามหน้าที่อย่างเป็นทางการและภายในขอบเขตแห่งหน้าที่ของบุคคลนั้น
มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์
นายกรัฐมนตรี
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่ประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยองค์การดาวเทียมเคลื่อนที่ระหว่างประเทศ ซึ่งทำเมื่อวันที่ ๓ กันยายน พ.ศ. ๒๕๑๙ และมีพันธกรณีที่จะต้องเข้าเป็นภาคีพิธีสารว่าด้วยเอกสิทธิ์และความคุ้มกันขององค์การดาวเทียมเคลื่อนที่ระหว่างประเทศ ซึ่งทำเมื่อวันที่ ๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๔ ที่แก้ไขเพิ่มเติมโดยความตกลง ซึ่งทำเมื่อวันที่ ๒๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๑ ตามพิธีสารนี้ภาคีแต่ละประเทศต้องให้เอกสิทธิ์และความคุ้มกันแก่องค์การดาวเทียมเคลื่อนที่ระหว่างประเทศ เจ้าหน้าที่ขององค์การ และผู้แทนภาคีขององค์การ ตามที่ระบุไว้ในพิธีสาร ดังนั้น เพื่อให้การคุ้มครองการดำเนินงานขององค์การในประเทศไทยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นการอนุวัติการให้เป็นไปตามข้อผูกพันในพิธีสารดังกล่าว รวมทั้งเพื่อให้องค์การมีสภาพเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไทย จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
พิธีสารว่าด้วยเอกสิทธิ์และความคุ้มกันขององค์การดาวเทียมเคลื่อนที่ระหว่างประเทศ แก้ไขเพิ่มเติมโดยข้อแก้ไขความตกลงจัดทำ ณ กรุงลอนดอน เมื่อวันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๔๑ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๔๒
--------------------------------------------------------------------------------
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๔/ตอนที่ ๑๖ ก/หน้า ๑๙/๑๙ มีนาคม ๒๕๕๐
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ประเภทของหน้า: พระราชบัญญัติ