วันที่เอกสารถูกสร้าง: 
05/03/2009
ที่มา: 
http://www.monstudies.com

ลอยกระทงมอญ

ประเพณีลอยกระทงกับชาวมอญ
(ประวัติพระมหาเถระอุปคุตตะ)

ความสัมพันธ์ระหว่างงานประเพณีลอยกระทงกับพระ มหาเถระอุปคุตตะ ในอดีตเมื่อสมัยพุทธกาลนานมาแล้ว ตำนานในพระพุทธศาสนากล่าวไว้ว่า มีหมู่บ้านชาวประมงแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ ณ แคว้นชมพูทวีป(ประเทศอินเดีย) ผู้คนดำรงชีวิตด้วยการหาปลา อยู่มาได้มีชาวประมงผู้หนึ่งออกเรือหาปลาและได้ปลามาตัวหนึ่ง จึงนำปลาตัวนั้นกลับมาเพื่อทำอาหาร เมื่อกลับมาถึงบ้านและผ่าท้องปลาตัวนั้นออกมากลับพบเด็กหญิงคนหนึ่งอยู่ภาย ใน ด้วยความอัศจรรย์ใจจึงนำเด็กหญิงนั้นไปถวายแด่พระเจ้ามหาราช ราชาผู้ครองแคว้นของตน พระเจ้ามหาราชได้ตั้งชื่อเด็กหญิงผู้นั้นว่า ราชบุตรีมัจฉะเทวี ทรงเลี้ยงดูมัจฉะเทวีจนกระทั่งเจริญวัยได้ ๑๘ ชันษา และปรากฏว่านางมัจฉะเทวีมีกลิ่นตัวเหม็นสาปมาก พระเจ้ามหาราชจึงนำนางลอยแพไปกลางแม่น้ำคงคา ฝ่ายมหาฤๅษีคุตฏะ ได้เห็นแพลอยมาดังนั้น ด้วยความสงสัยจึงเอาไม้เท้าที่ถืออยู่เปิดดูและพบว่านางมัจฉะเทวีนั้นตั้ง ครรภ์อยู่แล้ว มหาฤๅษีจึงนำนางมัจฉะเทวีมาชุบเลี้ยง จนนางคลอดบุตรออกมาเป็นชาย ได้ชื่อว่าอุปคุตตะ

เมื่อเจริญวัย ขึ้นมหาฤๅษีจึงนำเด็กชายอุปคุตตะไปถวายแด่พระเจ้ามหาราช พระเจ้ามหาราชต้องการให้อุปคุตตะขึ้นครองราชสมบัติแต่นางมัจฉะเทวีไม่ยินยอม จึงเกิดการแย่งชิงอุปคุตตะกุมารกันขึ้นอย่างรุนแรงระหว่างนางมัจฉะเทวีกับ พระเจ้ามหาราช เมื่อพระอินทร์ทรงทอดพระเนตรเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว จึงได้คว้าเอาตัวอุปคุตตะกุมารไป และตัดสินด้วยการทิ้งตัวอุปคุตตะกุมารลงกลางแม่น้ำคงคา แต่ด้วยอานุภาพและบุญญาธิการของกุมาร จึงบังเกิดปราสาทราชบัลลังก์ท่ามกลางมหานทีรองรับตัวกุมารไว้ เมื่อมหาชนทั้งหลายได้พบเหตุมหัศจรรย์ดังกล่าวจึงเกิดศรัทธาเลื่อมใสและกราบ นมัสการ กระทำอามิสบูชา เพื่อความหมดจดจากเคราะห์ร้ายนานาประการ อันคำว่ามหาเถระอุปคุตตะนั้น แปลว่าเป็นผู้มีฤทธิ์ ชนะภูติผีปีศาจทั้งปวง สามารถปกป้องคุ้มครองผู้คนได้ มหาชนทั้งหลายจึงออกนามกันว่า “เรือจิตะนาคะ” หรือวันลอยกระทง และได้ยึดถือเป็นหลักสำคัญในการบูชาพระมหาเถระอุปคุตตะ จนสืบทอดเป็นประเพณีมาจนทุกวันนี้