จุดยืนของชาวพุทธ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)
จุดยืนของชาวพุทธ
พระราชสังวรญาณ (พุธ ฐานิโย)
วัดป่าสาลวัน
ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา
บังลังก์ใจของชาวพุทธซึ่งเคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์เดียว กำลังคลอนแคลน เพราะชาวพุทธปันใจให้กับภูตผีปีศาจและผู้วิเศษอื่นๆ ทำให้จิตใจของชาวพุทธไม่มั่นคงต่อพระพุทธเจ้าซึ่งเคยเป็นที่พึ่งมาก่อน ดังนั้นชาวพุทธควรจะได้กลับใจมายึดพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้มั่นคงตามเดิมเสียก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
เวลานี้คนไทยไม่มีจุดยืน ไม่ทราบว่าจะเอาอะไรเป็นจุดยืนกันแน่ เพราะฉะนั้นเราจึงเคว้งคว้างอยู่ ใครหยิบยื่นอะไรมาเราเอาหมด จุดยืนจริงๆ เราไม่มี
"เรานับถือศาสนาพุทธเพียงแต่จารีตประเพณี
แต่ว่าจิตใจเราไม่ถึงธรรมะอย่างแท้จริง"
หลักศาสนาพุทธ พระพุทธองค์สอนให้เรา
สร้างจิตให้เป็นพุทธะ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
จุดเริ่มของการปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า
คือการสร้างความรัก ความเมตตาปรานีต่อกัน
สิ่งที่ชาวพุทธจะพึงศึกษา คือสิ่งที่เป็นอยู่โดยธรรมชาติ
ในจักรวาลนี้ ธรรมะของพระพุทธเจ้า...ที่พระพุทธเจ้ารู้นี่
คือสิ่งที่มีอยู่ เป็นอยู่โดยธรรมชาติ
สิ่งที่มีอยู่เป็นอยู่โดยธรรมชาตินั้น พระพุทธเจ้ารู้ว่า
เราจะเอาประโยชน์จากธรรมชาตินั้นอย่างไร
ธรรมชาติที่นักวิทยาศาสตร์เขาวิจัยออกมาแล้ว เขาค้นคว้า
เอามาทำประโยชน์ได้ อันนั้นพระพุทธเจ้าท่านรู้ แต่พระองค์ไม่สอน
เพราะพระองค์เชื่อว่า ยังมีคนสามารถที่จะค้นพบได้อยู่
แต่ธรรมะที่เป็นอมตะ คือพระนิพพาน
นอกจากพระพุทธเจ้าองค์เดียว ไม่มีใครค้นพบ
พระองค์จึงสอนแต่ทางปฏิบัติให้หลุดพ้น
และทำความสุขให้แก่สังคม
"การปฏิบัติธรรม คือ ฝึกตัวเองให้เป็นคนดี
สร้างพลังจิตให้เป็นอิสระแก่ตัวเอง
ไม่ตกอยู่ใต้อำนาจของสิ่งใด
นี่คือหลักที่ถูกต้อง"
เดี๋ยวนี้มีแต่คนสอนให้คนทั้งหลายเขวไปจากความจริง เช่น สร้างวัตถุมงคล แล้วโฆษณาว่าดีอย่างนั้นอย่างนี้ วัตถุมงคลก็ดี แต่ดีชั่วขณะหนึ่งไม่เป็นอมตะ สิ่งเหล่านี้เป็นที่พึ่งให้เราได้ไม่แน่นอน คนที่ใช้วัตถุมงคลได้ผลดีที่สุดคือ คนขยันหมั่นเพียร
สิ่งที่เป็นเครื่องรางของขลังที่ดีที่สุด ก็คือความมีศีลธรรม
เมื่อเรามีศีลธรรม เราไม่เบียดเบียนใคร
ก็ไม่มีคนมาเบียดเบียนเรา
ในประเทศไทยนี่เรามีแต่เกจิอาจารย์เก่งๆ ทั้งนั้น
อาจารย์ไหนประกาศออกมาก็ของดีร่ำรวยอย่างนั้นอย่างนี้
แต่คนก็จนลงทุกที เพราะอะไร...
เพราะเขาไปคอยแต่ฟ้าดินจะบันดาลให้
คอยแต่เครื่องราง ของขลังของดิบของดีมาช่วย
แต่ตัวเองไม่ช่วยตัวเอง
จงพยายามหาที่พึ่งให้ตนเอง
คนที่หาพึ่งแต่คนอื่น จะพบแต่ความหลอกลวง
เดี๋ยวนี้คนทั้งหลายคิดหาพึ่งคนอื่น ซึ่งผิดหลักความจริง
จงสร้างสมรรถภาพของตัวเองให้มีจิตใจเข้มแข็ง
จิ ตใจของคนเราจะมีความเข้มแข็งก็ด้วยการฝึก
ฝึกนี่คือหัดให้มีสติ มีสมาธิมั่นคง
จิตหรือใจของเรามีธรรมะ เป็นอาหาร
กายของเราเป็นวัตถุธรรม ก็มีวัตถุเป็นอาหาร
เราต้องรับประทาน เราต้องดื่ม และก็ต้องหายใจ
เมื่อเราขาดสิ่งดังกล่าว เราก็ดำรงชีพอยู่ไม่ได้
แต่ถ้าหากเราจะมาบำรุงแต่ร่างกายให้มีกำลังเข็มแข็ง
แต่ปล่อยให้สมรรถภาพทางจิตอ่อนแอ
ความเข้มแข็งของร่างกายก็ไม่มีความหมาย
ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องฝึกจิตให้มีพลัง
พลังที่สำคัญ ก็คือความมั่นคง ได้แก่สมาธิ
รองลงมาก็คือสติสัมปชัญญะ คือความระลึกรู้พร้อม
ได้แก่ความรู้สึกสำนึกผิดชอบชั่วดี
เมื่อจิตใจของเรามีความรู้สึกสำนึกผิดชอบชั่วดี
เราเห็นผลแห่งความดีที่เราปฏิบัติธรรม
ใจของเราก็มีความปราโมทย์บันเทิงอยู่กับคุณธรรม
แสดงว่าเราไม่ได้ให้อาหารบำรุงเฉพาะร่างกายอย่างเดียว
เรายังหาคุณธรรมมาเป็นเครื่องบำรุงเลี้ยงจิตใจของเรา
ให้มีความสมบูรณ์ มีพลังงาน
"เรียนธรรมะ ปฏิบัติธรรมะ เป็นหลักสูตรรักษาใจ
วิชาแพทย์ เป็นสูตรสำหรับรักษาร่างกาย
เพราะฉะนั้นถ้าเราเข้าใจทั้งสองอย่างแล้วสบาย"
การบำเพ็ญสมาธิภาวนาเป็นการบริหารสุขภาพกาย สุขภาพจิต ให้มีความสมบูรณ์ด้วยพลานามัย เพราะอาศัยพลังจิตอันนี้ ทำให้สุขภาพกายดี มีความสุข ร่างกายแข็งแรง เกิดพลังงาน ส่วนสุขภาพจิตนั้น จะสามารถต่อสู้กับเหตุการณ์และสิ่งแวดล้อม รับรู้อารมณ์โดยอิสระ ไม่ตกเป็นทาสแห่งอารมณ์นั้นๆ แล้วหัวคิดสติปัญญาของเราจะเฉียบแหลม คิดอะไรก็สำเร็จทะลุปรุโปร่ง
"ถ้าใครยังคิดว่าสมาธิต้องนั่งขัดสมาธิหลับตาภาวนา เมื่อเรามีสติรู้อยู่ตลอดเวลาว่าเราทำอะไร เราสร้างสติเพื่ออะไร ทำอย่างไรนักศึกษาจึงจะรู้ตัวว่าเขากำลังฝึกสมาธิอยู่ในห้องเรียน ถ้าหากว่าเราสามารถทำความเข้าใจในสองจุดนี้ได้ พุทโธ...แปลว่า ผู้รู้ เมื่อสติตัวนี้มีพลังงานเข้มแข็ง มันสามารถไหวตัวออกมา การเรียนหนังสือ เราจำได้ เรารู้ มันเกิดปัญญา สติ นึกถึง สัมปชัญญะ รู้พร้อม อย่าไปมุ่งหวังว่าจะได้ญาณอย่างนั้น อย่างนี้ เราปฏิบัติสมาธิ จิตของเราจะไปถึงไหน เรื่องของสมาธินี่ ถึงใครจะวิเศษวิโสสักปานใด ความรู้เห็นดวงดาวดวงเดือนอะไรต่างๆ อย่าไปสนใจ สมาธิ มีขั้นเดียว คือสมาธิ พื้นฐานแห่งการละ คือ ศีล ๕ ข้อ พยายามรักษาให้มันดี
เรามาฝึกสมาธิเพื่ออบรมจิตของเราให้มีพลังงาน .................................................................
|