ค้นหา
เมนู
- หน้าหลัก
- หมวดหมู่
- ภัยพิบัติ (65)
- ธรรมชาติ (286)
- วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (172)
- สังคม (2814)
- วัฒนธรรม (3270)
- ความรู้พื้นฐานทางวัฒนธรรม (19)
- ชาติพันธุ์ (531)
- ประเพณี (780)
- ภูมิปัญญาไทย (1652)
- การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ (11)
- การแต่งกาย (25)
- การรักษาโรค (67)
- การละเล่นพื้นบ้านและนาฏศิลป์ (381)
- การศึกษา (2)
- งานช่างฝีมือพื้นบ้าน (385)
- ผ้าทอ (300)
- งานหล่อ (0)
- งานแกะสลัก (11)
- งานปั้น เครื่องปั้นดินเผา และเซรามิก (12)
- ภาพเขียน (1)
- เครื่องถม (0)
- เครื่องจักรสาน (36)
- เครื่องทอง (1)
- เครื่องเงิน (2)
- เครื่องกระดาษ (2)
- เครื่องเขิน (2)
- เครื่องไม้ (7)
- เครื่องรัก (0)
- เครื่องโลหะ (6)
- เครื่องหนัง (0)
- อัญมณีและเครื่องประดับ (0)
- งานช่างฝีมืออื่นๆ (4)
- ที่อยู่อาศัย (99)
- ภาษาและวรรณกรรม (290)
- ศิลปะการป้องกันตัว (8)
- อาชีพและวิธีการหากิน (27)
- อุปกรณ์หากินและของใช้ (154)
- อาหาร (203)
- เครือข่ายทางวัฒนธรรม (204)
- วัฒนธรรมหลวง (17)
- เนื้อหาวัฒนธรรมรอจัดหมวด (0)
- ศิลปะและการบันเทิง (699)
- ศาสนาและจิตวิญญาณ (7090)
- เนื้อหารอจัดหมวด (26)
- ค้นหาชั้นสูง
- บริจาคเนื้อหา
- เกี่ยวกับโครงการ
ล็อกอิน
ผ้ามัดหมี่ - ตัวอย่างผ้ามัดหมี่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, จ.ศรีสะเกษ
ตัวอย่างผ้ามัดหมี่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ผ้ามัดหมี่ลายเต่าและลายไทยใหญ่ ตำบลสำโรงพลัน อำเภอไพรบึง จ.ศรีสะเกษ
ผ้ามัดหมี่ลายเต่าและลายไทยใหญ่ ตำบลสำโรงพลัน อำเภอไพรบึง จ.ศรีสะเกษ
ผ้ามัดหมี่ 2 ตะกอลายเชิงเทียน อำเภอราษีไศล
จังหวัดศรีสะเกษ
เอกลักษณ์ ลวดลาย และการใช้ประโยชน์
บ้านเปาะ ตำบลบึงบูรณ์ อำเภอบึงบูรณ์ พบการทอผ้าไหมมัดหมี่ด้วยด้ายสำเร็จที่ซื้อจากจังหวัดเพชรบูรณ์นำมาย้อมสีเองด้วยสีวิทยาศาสตร์ลายขิด ลายกระจับ
บ้านไทร ตำบลสำโรงพลัน อำเภอไพรบึง พบการทอผ้าไหมมัดหมี่ 3 ตะกอลายดั้งเดิม ได้แก่ ลายเต่า ลายไทยใหญ่ โดยส่วนใหญ่ใช้ทอเป็นผ้านุ่งและจากในทุกพื้นที่ที่สำรวจพบ ส่วนใหญ่ได้ทอเพื่อทำเป็นผ้านุ่ง ผ้าพื้นที่ไม่มีลวดลายหลัก (ไหม / ฝ้าย ) และมีการทอแบบ 2 ตะกอ เป็นลายโคม ลายพญานาค และลายประยุกต์เช่นลายโคม ลายสีดา เป็นต้น
ที่บ้านห้วย ตำบลบัวทุ่ง อำเภอราษีไศล และ บ้านโนนคำแก้ว ตำบลสังเม็ก อำเภอ กันทรลักษณ์ พบการทอผ้าไหมมัดหมี่ 2 ตะกอ ด้วยไหมที่เลี้ยงเอง ย้อมสีวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่เป็นลายที่ประยุกต์ขึ้นใหม่ ลายงูน้อย ลายไทย ลายเชิงเทียน ลายต้นสน ลายไก่และมีการทอ ลายดั้งเดิมอยู่บ้าง เป็นลายขอคั่น ลายขอพวง ลายนาคน้อย ลายนาคปรก เป็นต้น
ที่บ้านหาด ตำบลผักไหม อำเภอห้วยทับทัน และ บ้านหนองถ่ม ตำบลดู่ อำเภอ กันทรารมย์ มีการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเองและบางส่วนก็ซื้อมา ได้รับการแนะนำจากศูนย์ศิลปาชีพ ในพระบรมราชินีนาถในการทอผ้าไหมมัดหมี่ 2 ตะกอลายโบราณ พบผ้าลายโคมห้า ลายดอกแก้ว ลายขอคั่น ลายไทย ลายปลาตะเพียน และทอลายประยุกต์ เช่นลายนกยูง เป็นต้น
ที่บ้านกุดเมืองฮาม ตำบลกุดเมืองฮาม อำเภอยางชุม พบว่าไหมที่ใช้ทอเป็นไหมที่เลี้ยงเองส่วนหนึ่งและซื้อมาอีกส่วนหนึ่ง ทอผ้าไหมมัดหมี่ ทั้ง 2 และ 3 ตะกอ ลายขอ ลายบักจับเครือบางลายเป็นลายดั้งเดิมรวมกับลายประยุกต์เช่น ลายนาคต้นสน ลายโคมห้าเอื้อสอดไส้ด้วยลายกาบ
ที่บ้านเขิน ตำบลเขิน อำเภอน้ำเกลี้ยง บ้านโนนคูณ ตำบลโนนค้อ อำเภอโนนคูณ และบ้านหนองหว้า ตำบลหนองหว้า อำเภอเบญจลักษณ์ พบว่ามีความพยายามที่จะปลูกหม่อนเพื่อเลี้ยงไหมแต่ไม่เป็นผลเนื่องจากความแห้งแล้งจึงต้องซื้อไหมมาย้อมด้วยสีวิทยาศาสตร์เป็นการทอเพื่อขาย การทอผ้ามัดหมี่ที่ชาวบ้านคิดลายเอง ลวดลายไม่โดดเด่น ส่วนใหญ่จะไม่มีชื่อเรียก มีทั้งฝ้ายและไหม ทอเป็นผ้าซิ่น ผ้าเบี่ยง และผ้าขาวม้า เป็นต้น
ที่บ้านร่องสะอาด ตำบลพรหมสวัสดิ์ กิ่งอำเภอพยุห์ มีการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเพื่อใช้ในการทอผ้าไหมมัดหมี่ และใช้สีวิทยาศาสตร์ในการย้อมเช่นเดียวกัน เป็นการทอเพื่อใช้และขายกันเองในหมู่บ้าน ไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาแนะนำ พบผ้าซิ่นไหมลายดั้งเดิมเรียกว่า ผ้าไหมเข็นและลายอื่น ๆ ที่คิดขึ้นเอง มีการนำผ้าไหมต่อเชิงด้วยฝ้ายขิด
ที่บ้านค้อปอ ตำบลขุนหาญ อำเภอขุนหาญซื้อไหมจากอุทุมพรพิสัยมาขายที่หมู่บ้านย้อมสีวิทยาศาสตร์ พบการทอผ้าไหมมัดหมี่ลายหน่วยสับขอ ลายหน่วยสับมะแปปน้อย
การสืบทอดทางวัฒนธรรม
ส่วนใหญ่เป็นผ้าที่ทอโดยใช้ลวดลายพื้นถิ่นที่มีการสืบทอดมานาน แต่บางอำเภอได้มีการนำลายมาจากแหล่งอื่น เช่น ที่อำเภอห้วยทับทัน มีการนำลายผ้ามาจาก หนังสือ ซึ่งได้รับพระราชทานมาจากสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ อีกทางหนึ่งได้รับการอบรมจากทางราชการ
กระบวนการปัญหา และอุปสรรคทางด้านการผลิตและการจำหน่าย
อำเภอบึงบูรณ์ มีการรวมกลุ่มเป็นศูนย์ทอผ้าของหมู่บ้านชื่อว่าศูนย์พัฒนาอาชีพเช่นเดียวกับที่อำเภอห้วยทับทัน มีหน่วยราชการจากพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ จังหวัดสกลนครเข้ามาดูแลส่วนอำเภอที่เหลือสถานที่ทอจะใช้พื้นที่บ้านของตนเอง
ที่อำเภอบึงบูรณ์ และอำเภอไพรบึง เส้นไหมที่ใช้ผลิตขึ้นเอง อำเภออื่น ๆจะใช้วิธีซื้อสำเร็จ ที่บ้านโนนคำแก้ว ตำบลสังเม็ก อำเภอกันทรลักษณ์ และอำเภอเบญจลักษณ์ มีการมัดย้อมด้วยสีธรรมชาติ ส่วนอำเภออื่น ๆ ใช้สีวิทยาศาสตร์
การทอส่วนใหญ่จะใช้กี่ธรรมดา จะมีบางแห่งที่ใช้กี่กระตุก เช่น ตำบลดู่ อำเภอกัทรรมย์ ทุกอำเภอที่พบการทอผ้าจะใช้ทำเป็นอาชีพเสริมหลังว่างจากการทำนาทำสวน ยกเว้นบ้านโนนคำแก้ว ตำบลสังเม็ก อำเภอกันทรลักษณ์
จากการสำรวจพบว่า
ที่จังหวัดศรีสะเกษมีแนวทางที่จะสามารถพัฒนาอาชีพการทอผ้าได้เนื่องจากชาวบ้านมีความสนใจและตื่นตัว หากแต่ขาดการสืบทอดไปสู่คนรุ่นหนุ่มสาวเพราะยังไม่ให้ความสนใจเท่าที่ควร พบว่าผู้ทอผ้าขาดความสนใจที่จะทอผ้าลายโบราณ ทั้งนี้เนื่องจาก ใช้เวลานานทำให้ไม่คุ้มกับรายได้ที่ได้รับ
การจำหน่าย
จะมี 3 ช่องทางคือ มีพ่อค้าคนกลางมารับซื้อ จำหน่ายตามศูนย์ทอผ้าที่จัดตั้งขึ้นในแต่ละท้องที่ และจำหน่ายโดยผ่านหน่วยงานราชการ ปัญหาที่พบในเรื่องของการจำหน่ายคือการกำหนดราคารับซื้อต่ำโดยพ่อค้าคนกลางและหน่วยงานราชการ รวมถึงการหักเปอร์เซ็นต์จากการขาย จ่ายล่าช้า จ่ายไม่ครบ ความช่วยเหลือที่ต้องการคือการสนับสนุนทางด้าน อุปกรณ์การผลิต การรวมกลุ่มการผลิต เงินทุน การอบรมหรือถ่ายทอดความรู้ การตลาดและการส่งเสริมให้เกิดการจัดตั้งร้านค้ากลุ่ม โดยอาจจัดตั้งในแหล่งท่องเที่ยวเพื่อลดบทบาทของพ่อค้าคนกลาง
ต้นฉบับ http://www.thaitextilemuseum.com/Thai/A_4/matmi1/matmi4/matmi4.html
ขอบคุณ ภาพและเนื้อหาจาก หนังสือผ้าทอพื้นเมืองและศิลปบนผ้าไหมมัดหมี่